นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะจะได้เดินหน้าทำงานการเมืองอย่างเต็มตัว โดยยอมรับว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีความกดดันในการทำงาน มีกระแสเรียกร้องให้ลาออก แต่ไม่สามารถลาออกได้ เพราะมีภารกิจสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ต้องดำเนินการ เพราะมีทั้งปัญหาสงครามการค้า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก การยกระดับค้าปลีกแบบดั้งเดิมให้อยู่รอด รวมทั้งการผลักดันภารกิจที่เป็นเรื่องยาก คือ การดูแลค่ารักษาพยาบาล และสิทธิบัตรกัญชา พร้อมทั้งระบุว่า การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีนักการเมืองใดลาออกหลังจากที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง เพราะจำเป็นต้องมีรัฐบาลรักษาการจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ โดยไม่ต้องการเบียดบังเวลาราชการ เพื่อมาทำงานการเมือง
ทั้งนี้ ได้ย้ำให้ข้าราชการสานต่อการทำงานที่รัฐบาลได้เริ่มไว้ เช่น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การดูแลราคาสินค้าเกษตร การผลักดันสินค้าเกษตร การใช้อี-คอมเมิร์ซ และการแก้ปัญหาความยากจน ส่วนงานที่ต้องการให้กระทรวงพาณิชน์สานต่อ คือ แผนปฏิรูปภาคเกษตรครบวงจร การผลักดันธุรกิจบริการที่ขณะนี้มีการยื่นก่อตั้งกรมใหม่ คือ กรมบริการ
ส่วนงานกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่าได้วางตัวผู้บริหารไว้แล้ว เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง เชื่อว่าจะสานงานต่อได้โดยไม่ยึดติดกับตัวบุคคล