xs
xsm
sm
md
lg

กรมควบคุมมลพิษคาดต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ PM2.5 อีก 2 เดือน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวถึงสถานการณ์ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล กลับมาเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ต้องไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ว่า ส่วนใหญ่ปริมาณฝุ่นละอองจะเพิ่มขึ้นจนเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพบริเวณริมถนน โดยเฉพาะริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน อยู่ที่ 76 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน อยู่ที่ 79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี อยู่ที่ 80 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง อยู่ที่ 79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ริมถนนดินแดง เขตดินแดง อยู่ที่ 83 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ริมถนนคู่ขนานพระราม 2 อ.เมือง จ.สมุทรสาคร อยู่ที่ 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง มีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 สูงสุดอยู่ที่ 85 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สาเหตุที่ค่าฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลกลับมาเกินค่ามาตรฐาน เนื่องจากสภาพอากาศปิด หากสังเกตจะเห็นว่าเช้าวันนี้แทบทุกพื้นที่ลมนิ่งมากและท้องฟ้าขมุกขมัวผสมกับหมอก ทำให้ค่ามลพิษกลับมาสูงและอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤตเหมือนกับช่วงแรกๆ แม้ในช่วง 1-2 วันก่อนสถานการณ์เริ่มดีขึ้น จึงได้ประสานกรุงเทพมหานครนำรถแรงดันสูงไปฉีดพ่นในพื้นที่ฝุ่นมีค่าสูงเพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองลง แต่หลังจากช่วงบ่ายเริ่มมีแสงแดดมากขึ้น คาดว่าชั้นบรรยากาศจะโปร่งขึ้นจนแดดส่องลงมาได้ ช่วยให้อากาศลอยตัวดีขึ้น ทั้งนี้ ยอมรับว่าช่วงนี้สถานการณ์ค่าฝุ่นละอองจะขึ้นๆ ลงๆ ไปอีกระยะหนึ่ง ทำให้ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องช่วง 1-2 เดือนนี้

ส่วนการแก้ปัญหาต่อเนื่องในอนาคต กรมควบคุมมลพิษได้นำเสนอในการประชุมที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.จักทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร เข้าร่วม ขอให้ลดปัญหาการจราจรติดขัดริมถนน เพราะสาเหตุของมลพิษฝุ่นควันไอเสีย และพื้นที่ก่อสร้างแนวรถไฟฟ้าทั่วกรุงเทพมหานคร จะเกิดปัญหาการจราจรติดขัดหนาแน่น โดยขอให้ระบายรถในพื้นที่ริมถนนเพื่อลดการสะสมของมลพิษจากรถยนต์