xs
xsm
sm
md
lg

สมาคมองค์การพิทักษ์ รธน.ค้านแจกซิมเน็ตแก้จน เชื่อเอื้อกลุ่มทุนมือถือ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ในนามสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรื่อง คัดค้านการแจกซิมเน็ตแก้จนเอื้อประโยชน์กลุ่มทุนมือถือ ระบุว่า ตามที่นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยถึงการแจกซิมอินเทอร์เน็ตฟรีให้ผู้มีรายได้น้อย 14 ล้านคน ในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า มั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์ เพราะจะทำให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงข้อมูล ความรู้ การประกอบอาชีพต่างๆ ทั้งข้อมูลทั่วไป และข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพที่รัฐจัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งหากผู้มีรายได้น้อยมีช่องทาง มีความรู้เพิ่มขึ้น จะสามารถประกอบอาชีพพัฒนาฝีมือแรงงานได้ ในระยะยาวก็จะหลุดพ้นการเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยที่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลนั้น

เหตุผลดังกล่าว ไม่เชื่อว่าเป็นแนวคิดของคนระดับรัฐมนตรี ที่ออกมาโฆษณาชวนเชื่อขายฝันให้ชาวบ้านถึงเพียงนี้ เพราะถ้าทุกคนที่มีซิมโทรศัพท์และเล่นอินเทอร์เน็ตได้แล้วทำให้หายจน ประเทศไทยคงถูกยกระดับให้เป็นประเทศร่ำรวยไปนานแล้ว เพราะคงไม่มีที่ไหนในโลกที่ประชาชนมีซิมโทรศัพท์ไปเล่นอินเทอร์เน็ตเพียง 6 เดือนแล้วจะทำให้หายจนได้ และหากพิจารณาจากรายงานสถิติผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือประเทศไทยพบว่าเฉพาะผู้ให้บริการหลักทั้ง 3 รายใหญ่ของประเทศไทย ได้แก่ AIS, dtac และ TrueMove เมื่อต้นปี 2017 นั้น ยอดผู้ใช้งานรวมทั้งสิ้นมีถึง 90.7 ล้านคน ซึ่งเกินไปกว่าจำนวนประชากรคนไทยที่มีเพียงประมาณ 66 ล้านคนเท่านั้น เช่นนั้นแล้วทำไมคนไทยจึงมีคนยากคนจนอยู่เต็มแผ่นดินให้เป็นเครื่องมือในการสร้างภาพของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยเล่า

ในทางกลับกันแนวคิดดังกล่าวเป็นเพียงกลฉ้อฉลของรัฐบาลที่จะโยกย้ายเงินภาษีของประชาชนที่ควรนำไปพัฒนาประเทศในด้านที่เหมาะสมกลับต้องนำมาแจกซิมเล่นเน็ตเพื่อถ่ายเทเงินไปเข้ากระเป๋ากลุ่มทุนมือถืออย่างแนบเนียนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งนี้ระยะสั้นหากมีคนจน 14 ล้านคน โดยที่รัฐเติมเงินให้คนละ 50 บาทต่อเดือน ก็จะตกเดือนละ 700 ล้านบาท ในระยะเวลา 6 เดือน ก็จะเท่ากับ 4,200 ล้านบาท นอกจากนั้น แต่ผู้มีรายได้น้อยบางรายไม่สามารถซื้อสมาร์ทโฟนหรือเครื่องมือที่จะใช้ซิมดังกล่าวได้ก็ต้องเสียเงินในการจัดหาสมาร์ทโฟนมาใช้อีก กลุ่มทุนมือถือก็จะรับทรัพย์อย่างเดียว และระยะยาวเมื่อมีการใช้มือถือแล้วก็ยากที่จะเลิกใช้ หากแต่จะต้องใช้ต่อไปแม้หมดระยะโปรโมชั่นของรัฐบาล และจะต้องมีการจ่ายค่าเน็ตและซื้อเครื่องโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องทุก 1-3 ปี ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเป็นการสร้างการเสพติดบริโภคนิยมให้เกิดขึ้นกับประชาชน บนความอู้ฟู่ของกลุ่มทุนมือถือโดยชัดแจ้ง ไม่ใช่แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงแต่อย่างใด เช่นนี้รัฐบาลจริงใจที่จะช่วยประชาชน หรือแอบแฝงเจตนาเพื่อประโยชน์ของใครหรือไม่ อย่างไร ? ซึ่งหากพล.อ.ประยุทธ์ มีรัฐมนตรีที่มีแนวคิดแก้จนให้คนจนเพื่อประโยชน์ของคนรวยเช่นนี้ก็เห็นที่จะไปไม่รอด ดังนั้นควรที่จะปลดออกจากตำแหน่งไปเสียเพื่อกู้ภาพลักษณ์ที่ดีของรัฐบาลคืนมา