นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ก็มีบางแห่งที่มีน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย อาทิ อ่างเก็บน้ำทับเสลาและอ่างเก็บน้ำกระเสียว ต้องสงวนน้ำไว้ใช้เพื่อการอุปโภค-บริโภค รักษาระบบนิเวศและจัดสรรน้ำตามความเหมาะสม เพื่อสนับสนุนการปลูกพืชเกษตรต่อเนื่อง
ส่วนสภาพน้ำท่าในแม่น้ำสายหลักต่างๆ ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่มีปริมาณน้ำน้อย ต้องอาศัยการระบายจากเขื่อนเพื่อรักษาระบบนิเวศ ในส่วนของค่าความเค็มในแม่น้ำ แม่กลอง แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำบางปะกง ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ค่าความเค็มอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการตรวจสอบและรักษาคุณภาพของน้ำในการอุปโภค-บริโภค และการผลิตน้ำประปา
สำหรับแผนการจัดสรรปริมาณน้ำต้นทุนในช่วงหน้าแล้ง ปี 2561/2562 (ระหว่าง 1 พ.ย.61 - 30 เม.ย.62) จากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง รวมกันทั้งสิ้น 23,100 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยามีแผนการจัดสรรน้ำจาก 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยฯ ป่าสักฯ) รวม 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ การจัดสรรน้ำในช่วงหน้าแล้งนี้ ปัจจุบัน (3 ธ.ค. 61) รวมทั้งประเทศ ได้จัดสรรน้ำไปแล้ว 3,554 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 15 ของปริมาณน้ำใช้การได้ที่จัดสรร
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีปริมาณน้ำต้นทุนเพียงพอต่อการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศ แต่ต้องขอความร่วมมือร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้และเพื่อให้น้ำต้นทุนที่มีอยู่อย่างจำกัดมีสำรองเพียงพอใช้ในช่วงต้นฤดูฝนหน้า