นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวถึงการดูแลผิวในหน้าหนาว ว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูหนาว อุณหภูมิเริ่มลดต่ำลง ทำให้อากาศเย็นและแห้ง การดูแลผิวให้ชุ่มชื้นมีเคล็ดลับง่ายๆ คือ ไม่อาบน้ำอุ่นเกินไป ใช้สบู่ที่อ่อนโยน ทาครีมบำรุงสม่ำเสมอ โดยเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น ผิวแห้งมากควรใช้ออยล์ทาบำรุง ก่อนออกจากบ้านควรทาครีมกันแดดทุกครั้งเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดที่มากับลมหนาว สำหรับประชาชนที่เป็นโรคผิวหนัง ควรสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงทางผิวหนัง หากมีอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ และควรไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
ขณะที่แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคผิวหนังที่พบบ่อยในช่วงฤดูหนาว ได้แก่ โรคผื่นผิวหนังอักเสบจากการที่ผิวหนังแห้ง อาจทำให้เกิดผื่นคัน จะพบมากในเด็กเล็กที่ผิวบอบบาง ผู้สูงอายุ เกิดจากผิวที่แห้ง ทำให้ไวต่อการระคายเคืองต่อน้ำ สบู่ หรือสารเคมีต่างๆ จึงไม่ควรอาบน้ำอุ่นเกินไป ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง หลังอาบน้ำควรทาครีมบำรุงผิว
โรคผื่นผิวหนังอักเสบจากการระคายเคือง มักจะมีอาการมากที่มือ โดยเฉพาะในผู้ที่ทำงานบ้าน จะมีผื่นแดงคัน มือแห้งแดงแตก สามารถดูแลเบื้องต้นโดยการใส่ถุงมือป้องกัน หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีต่างๆ แม้กระทั่งสัมผัสน้ำโดยตรง และควรทาครีมบำรุงบ่อยๆ โรคภูมิแพ้ผิวหนังในเด็ก ทำให้เกิดอาการผิวแห้ง ผื่นแดง คัน กำเริบ ประกอบกับเด็กบางคนไม่ได้อาบน้ำในช่วงอากาศที่เย็น ทำให้แบคทีเรียที่ผิวหนังเพิ่มมากขึ้น เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โรคกำเริบ การดูแลผิวในเด็กเน้นการใช้ครีมบำรุง ไม่จำเป็นต้องซื้อสบู่ที่มีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรีย เพราะอาจทำให้มีการระคายเคือง คันเพิ่มขึ้น โรคเซ็บเดิร์ม หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน มีอาการผื่นแดงลอกเป็นขุยที่บริเวณไรผม ร่องแก้ม ข้างจมูก รูหู ซึ่งจะกำเริบมากในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง นอนดึก พักผ่อนน้อย ดื่มเหล้า การรักษาควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวร่วมกับทาครีมบำรุง และมาพบแพทย์ตามนัด กลุ่มโรคไวรัสมีการแพร่กระจายได้มากในช่วงฤดูหนาว เช่น โรคสุกใส มีอาการไข้ ร่วมกับตุ่มใสตามตัว หรือโรคหัด จะพบในเด็ก มีอาการไข้สูง ไอมาก ตาแดง และผื่น ไวรัสเหล่านี้ติดต่อได้ทางระบบทางเดินหายใจ