วันนี้ (23 พ.ย.) พรรคชาติพัฒนาจัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เป็นประธานการประชุม พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อหารือเรื่องการเชิญนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี มาเป็นที่ปรึกษาของพรรค
ก่อนหน้านี้ ในการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรค มีแนวคิดที่จะให้ผู้ที่มีประสบการณ์ทางการเมือง และงานด้านเศรษฐกิจมาร่วมวางแผนในการทำงานของพรรคชาติพัฒนา เพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการประชุมในช่วงเช้า นายเทวัญ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค เดินทางไปยังบ้านพักของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ บริเวณซอยราชวิถี 22 เพื่อเชิญนายสุวัจน์ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษา รวมถึงตำแหน่งที่ปรึกษาอีก 7 คน อาทิ นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตหัวหน้าพรรค ร.ต.ประพาส ลิมปะพันธ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย นายพงษ์พิช รุ่งเป้า อดีต ส.ส.นครราชสีมา พ.อ.วินัย สมพงศ์ อดีต ส.ส.พรรคพลังธรรม นายสุเมธ ศรีพงษ์ นายพงษ์อุดม ตรีสุขี และนายมนตรี แก้วแพง โดยยืนยันว่า พรรคมีมติเป็นเอกฉันท์ในการเชิญนายสุวัจน์ เป็นประธานที่ปรึกษา รวมถึงคณะที่ปรึกษาทั้งหมดที่เป็นผู้มีประสบการณ์ในเรื่องของเศรษฐกิจ การเมือง และการกีฬา โดยจะนำคำปรึกษาไปให้คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อนำไปประโชยน์ นำพาพรรคต่อไป
ทางด้านนายสุวัจน์ กล่าวว่า ในนามของคณะที่ปรึกษา ตนยินดีตอบรับเข้ามารับตำแหน่งดังกล่าว เพื่อจะช่วยสนับสนุนกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งตนมองว่าเป็นการเปลี่ยนรูปแบบจากเดิม นำคนรุ่นใหม่มาทำงาน ถือเป็นยุคใหม่ของพรรคที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ ตนจะใช้ประสบการณ์ทางการเมืองในอดีตมาช่วยงานนักการเมืองรุ่นใหม่ ซึ่งนักการเมืองรุ่นใหม่จะทำงานการเมืองในลักษณะปรองดอง ไม่ขัดแย้ง เพื่อให้การทำงานสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน เป็นความลงตัวของนักการเมืองรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่
สำหรับภารกิจแรกหลังรับตำแหน่งที่ปรึกษาพรรค นายสุวัจน์ จะเดินทางไปเคารพอนุสรณ์สถาน พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรค ที่เป็นแบบอย่างในการทำงานของพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานที่ไม่เน้นความขัดแย้ง สร้างความปรองดอง และเป็นที่มาของสโลแกนพรรค "เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า"
นายสุวัจน์ มั่นใจว่า การเลือกตั้งจะเป็นไปตามกรอบ ไม่มีปัจจัยที่จะทำให้เกิดอุปสรรค ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้งและคงจะมีการปลดล็อกในเร็ววัน เพื่อให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินการทางการเมืองได้ อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้กำหนดการเลือกตั้งแบบใหม่ ดังนั้น อยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งทำความเข้าใจกับประชาชนว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นมีกติกาอย่างไร เพื่อประชาชนจะได้เข้าใจ
อย่างไรก็ตาม นายสุวัจน์ กล่าวว่า ในขณะนี้ตนเองยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นหรือไม่ และยังไม่ทราบว่าพรรคจะเสนอตนเองดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ยืนยันว่าการที่ตนเองเข้ามา เป็นที่ปรึกษาไม่ได้หวังตำแหน่งใดๆ แต่จะใช้ประสบการณ์เข้ามาแนะนำการเมืองปัจจุบัน โดยมุ่งหวังที่จะทำเพื่อประเทศ ไม่ว่าในอนาคตจะอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม เพราะปัจจุบันพรรคการเมืองมีทั้งพรรคขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดจิ๋ว แต่ตนมองว่าพรรคชาติพัฒนาเป็นพรรคขนาดกลาง และไม่สร้างปัญหาให้กับประเทศ มีแนวทางการเมืองที่ชัดเจน จึงเชื่อในความสามารถของผู้บริหารพรรคที่จะรักษาความเป็นพรรคขนาดกลางไว้
พร้อมย้ำว่า พรรคชาติพัฒนาไม่ใช่เป็นของคนโคราชเท่านั้น แต่พรรคที่เกิดมาจากโคราช และการพัฒนาในโคราชจะเป็นโมเดลที่จะทำไปใช้กับจังหวัดอื่นๆ เนื่องจากภายในพรรค มีบุคคลที่มาจากหลากหลายพื้นที่ และแม้จังหวัดนครราชสีมาจะเป็นพื้นที่เดิมของพรรคชาติพัฒนา แต่ก็ไม่กังวลถ้าจะมีพรรคอื่นลงพื้นที่ เพราะประชาชนจะได้มีทางเลือก ยินดีต้อนรับทุกพรรค ถือเป็นสิ่งที่ดี เหมือนกีฬา ที่มีทั้งแพ้และชนะ