เมื่อเวลา 22.30 น. วานนี้ (20 พ.ย.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รองผู้บังคับการตำรวจสันติบาล พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรมัย พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.เอกราช ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง และ พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายสิงหราช วิชิตพงศ์ หรือ อู๊ด อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ที่ 129/2561 ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2561 และนางจิตราพัชญ์ คันธะมาลย์ อายุ 45 ปี ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ พร้อมของกลางรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กข 7763 ยโสธร โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 21 (พุแค-หล่มสัก) กม.ที่ 160 จ.เพชรบูรณ์ เมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน 2561 เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอ้างชื่อตนเรียกรับเงินและกรรโชกทรัพย์จากผู้ประกอบธุรกิจรถบรรทุกขนส่งสินค้าในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นมีผู้เสียหายหลายรายได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนที่ สภ.ปากน้ำปราณ และ สภ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว
พนักงานสอบสวนทั้ง 2 แห่ง จึงร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐานจนแน่ชัดว่ามีผู้กระทำความผิดจริง จึงขออนุมัติศาลจังหวัดหัวหิน เพื่อทำการออกหมายจับนายสิงหราช ตามหมายจับของ สภ.ปากน้ำปราณ เลขที่ 128/2561 ลงวันที่ 1 มิ.ย. 61 และสภ.สามร้อยยอด หมายจับเลขที่ 129/2561 ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2561 ก่อนเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีทางกฎหมาย
กระทั่งเมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (20 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายสิงหราช โดยสารรถยนต์คันดังกล่าว โดยมีนางจิตราพัชญ์ เป็นคนขับ และกำลังหลบหนีเข้าไปในเขตพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงร่วมกันตั้งด่านจุดสกัด จนกระทั่งพบรถเป้าหมายขับมาถึงบริเวณถนนทางหลวงที่ 21 กม.160 ต.บัวพัฒนา อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ จึงเรียกขอหยุดตรวจ จนพบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง จึงนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่กองบังคับการปราบปราม
ด้านนายสิงหราช อ้างว่า ทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 มานานกว่า 20 ปี จำได้เพียงตำแหน่งระดับสารวัตร ชื่อเล่นว่า พัฒน์ และ ด.ต.เดช โดยตนทำหน้าที่เป็นผู้ชี้เป้าว่ารถบรรทุกคันใดขนย้ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เมื่อตรวจค้นรถบรรทุกได้ในพื้นที่ สภ.สามร้อยยอด ก็พบของผิดกฎหมายจริง หลังจากนั้น เฮียซ้ง ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทรถบรรทุกก็มาคุยกับทางสารวัตรคนดังกล่าว และ ด.ต.เดช และมีการนัดจ่ายเงินกันโดยตนไม่ได้รับเงินด้วย ก่อนที่ตนจะแยกตัวออกมา รวมทั้งปฏิเสธด้วยว่า ไม่เคยอ้างชื่อ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รวมถึงบุคคลอื่น ทั้งนี้ ตนกำลังจะเดินทางเข้ามอบตัวอยู่แล้ว แต่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะเกรงว่าตำรวจอาจถูกออกจากราชการ
ขณะที่นางจิตราพัชญ์ กล่าวว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่ได้จะพานายสิงหราช หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตั้งใจจะพานายสิงหราช ไปมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามคำร้องขอของนายสิงหราช ที่ขอให้ตนช่วยขับรถพาเข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ และตนเพิ่งจะมาทราบว่า นายสิงหราช มีหมายจับติดตัวก่อนที่จะถูกจับกุม
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวนายสิงหราช ส่ง สภ.ปากน้ำปราณ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนนางจิตราพัชญ์ แจ้งข้อหาให้การช่วยเหลือโดยการพาผู้ต้องหาหลบหนี หรือให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องหา ตามมาตรา 189 และข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ เนื่องจากแนวทางการสืบสวนทราบว่า นางจิตราพัชญ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป