พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ซึ่งมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมฯ พิจารณาเรื่องขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก ซึ่งตอนนี้มีอยู่ในประเทศไทยปีละประมาณ 400,000 ตัน โดยเรายุติการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์แล้ว 422 รายการ ยุติการนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีราคาสูงหรือมีอายุการใช้งานนาน อีกทั้งมอบหมายให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมดูแลการกำจัดขยะโซลาร์เซลล์ทุกชิ้น เพื่อไม่ให้สร้างปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนขยะปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีที่เล็ดลอดเข้ามาจากการที่กรมศุลกากรไม่ได้ตรวจสแกนนั้น ที่ประชุมฯ มอบหมายให้สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ติดตั้งเครื่องมือสแกนตรวจหาขยะปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีที่ด่านศุลกากร
นอกจากนี้ จะออกประกาศรายการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกห้ามนำเข้า และสินค้าที่ต้องถูกควบคุมการนำเข้าทั้งหมด รวมถึงให้กระทรวงพาณิชย์ หรือกรมโรงงานอุตสาหกรรม ออกประกาศที่เกี่ยวข้อง เพื่อจำกัดการนำเข้า ควบคุม และจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ ขยะเครื่องใช้ไฟฟ้า และเศษพลาสติก
ขณะเดียวกัน ให้กรมศุลกากรตรวจสอบพิกัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้า ส่งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมไปตรวจสอบเพื่อทำลายให้ถูกต้อง อีกทั้งมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ กรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรมศุลกากร ร่วมกำหนดโควตาการนำเข้าเศษพลาสติกในระยะเวลา 2 ปี โดยให้มีโควตาการนำเข้าเศษพลาสติกในปี 2562 ไม่เกิน 70,000 ตัน ให้ใช้พลาสติกในประเทศไม่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในปี 2563 ให้มีการนำเข้าไม่เกิน 40,000 ตัน โดยให้ใช้พลาสติกในประเทศไม่น้อยกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ และจะห้ามการนำเข้าขยะพลาสติกจากต่างประเทศโดยเด็ดขาดในปี 2564
ทั้งนี้ การกำหนดให้ลดทอนการนำเข้าขยะพลาสติกเป็นระยะๆ เนื่องจากถ้ายกเลิกการนำเข้าแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทันที จะส่งผลกระทบในแง่ข้อกฎหมาย
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกำชับในที่ประชุมว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบกับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยตรง รวมถึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติดตามและดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อให้มีผลเป็นรูปธรรม หากตรวจสอบพบความเสียหายจะต้องมีผู้รับผิดชอบ ทั้งนี้ ให้คณะอนุกรรมการรายงานความคืบหน้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง