สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อยู่ระหว่างจัดทำร่างประกาศ กพท. เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตให้คนโดยสารพาวัตถุอันตราย ประเภทอาวุธ และสิ่งเทียมอาวุธไปกับท่าอากาศยาน ตามข้อเสนอแนะขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) เมื่อครั้งที่มาตรวจสอบตามโครงการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือน (ยูแซฟ) ของไทย เมื่อเดือนกรกฎาคม 2560 เนื่องจากพบว่า กพท. ไม่มีระเบียบการดำเนินการเรื่องการอนุญาตให้คนโดยสารพาวัตถุอันตราย ประเภทอาวุธ และสิ่งเทียมอาวุธ เช่น ปืน ขึ้นเครื่องบิน ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานไอเคโอ กพท. ต้องเร่งทำระเบียบให้ทุกสายการบินนำไปปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน
ปัจจุบันแต่ละสนามบิน และทุกสายการบินที่ทำการบินในไทย มีการกำหนดระเบียบในการนำปืนขึ้นเครื่องบินอยู่แล้ว โดยมีขั้นตอนและรายละเอียดที่ใกล้เคียงกัน แต่ไอเคโอมองว่าควรมีระเบียบกลางของ กพท. ที่ไม่ว่าสนามบิน หรือสายการบินต้องปฏิบัติตามกรอบเดียวกัน ทาง กพท. จึงนำข้อปฏิบัติของสายการบิน และสนามบินต่างๆ มาพิจารณา เพื่อจัดทำเป็นร่างประกาศ โดยขณะนี้จัดประชาพิจารณ์จากผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว 3 ครั้ง เพื่อให้มีความเข้าใจที่ตรงกัน ทั้งนี้ คาดว่าผู้อำนวยการ กพท. จะสามารถลงนามออกเป็นประกาศ กพท. ได้ภายในปลายปีนี้
เชื่อว่าร่างประกาศดังกล่าวเมื่อมีผลบังคับใช้แล้ว จะไม่กระทบกับผู้โดยสารมากนัก เพราะขั้นตอนการปฏิบัติส่วนใหญ่ยังเหมือนกับที่ปฏิบัติอยู่ในปัจจุบัน มีข้อแตกต่างบางส่วนเท่านั้นที่เข้มข้นขึ้น เช่น เดิมผู้โดยสารที่จะพาปืนไปกับเครื่องบิน จะนำปืนที่มีกระสุนพร้อมใช้มาแจ้งที่เคาน์เตอร์สายการบิน และนำไปแยกปืนกับกระสุนออกจากกัน แต่ประกาศฉบับนี้ ผู้โดยสารต้องเตรียมพร้อมมาจากบ้าน โดยแยกปืนและกระสุนออกจากกัน และใส่กระเป๋าสำหรับปืนให้เรียบร้อยก่อนก้าวเข้าสู่สนามบิน จากนั้นให้แจ้งที่เคาน์เตอร์สายการบิน เพื่อตรวจสอบซ้ำอีกครั้งว่าปืนและกระสุนแยกออกจากกันจริงๆ หากพบว่าผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามจะไม่อนุญาตให้พาปืนไปกับเครื่องบินเด็ดขาด
นอกจากนี้ ผู้โดยสารสามารถพาปืนไปกับเครื่องบินได้คนละ 1 กระบอกเท่านั้น จากปัจจุบันไม่ได้จำกัดจำนวน และต้องนำเอกสารใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนตัวจริงมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ห้ามนำเอกสารที่ถ่ายเอกสารมาแสดง
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การพาปืนไปกับเครื่องบิน ผู้โดยสารจะไม่สามารถพาปืนขึ้นเครื่อง และพกอยู่กับตัวได้ โดยปืน กระสุน และคนจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน รวมทั้งภายในห้องโดยสารก็จะไม่มีปืนอยู่เด็ดขาด ซึ่งเจ้าหน้าที่สายการบินจะเป็นผู้นำปืนไปเก็บอยู่ในพื้นที่ที่ผู้โดยสารไม่สามารถเข้าถึงได้ เมื่อถึงปลายทางแล้วผู้โดยสารจึงจะลงไปรับที่สนามบิน