นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ระหว่างวันที่ 8-9 สิงหาคม ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยลุ่มน้ำเพชรบุรียังคงมีปริมาณน้ำหลากไหลต่อเนื่องลงเขื่อนแก่งกระจานและน้ำล้นสปิลเวย์ลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ส่วนแม่น้ำโขงยังมีระดับน้ำล้นตลิ่งบริเวณนครพนม มุกดาหาร และอุบลราชธานี ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีระดับเกินเกณฑ์ควบคุม และปริมาณน้ำเกินร้อยละ 80 ของความจุ 4 แห่ง คือ เขื่อนแก่งกระจาน มีน้ำไหลเข้า 24.45 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ระบายออก 16.82 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน น้ำล้นสปิลเวย์สูง 52 เซนติเมตร และสภาพท้ายน้ำอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง แม้ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง 0.96 เมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 172.3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
สำหรับปริมาณน้ำที่ล้นสปิลเวย์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบให้มีน้ำท่วมพื้นที่ริมสองฝั่งลำน้ำบริเวณอำเภอแก่งกระจาน อำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาด อำเภอเมือง และอำเภอบ้านแหลม จากนั้นจะไหลลงทะเลต่อไป โดยยังคงเร่งพร่องระบายน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีและในระบบชลประทาน ควบคู่กับการพร่องน้ำจากอ่างเก็บน้ำ ด้วยวิธีกาลักน้ำและเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งในจุดเสี่ยงอาจมีน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่และชุมชน เขื่อนน้ำอูน มีน้ำไหลเข้า 1.21 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะเพิ่มการระบายน้ำออกเป็น 4.15 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน สภาพท้ายน้ำยังปกติ คาดว่าจะไม่มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ เพราะไม่มีน้ำล้นตลิ่ง โดยควบคุมการระบายน้ำออกจากเขื่อน 3.50 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และเพิ่มการระบายน้ำด้วยวิธีกาลักน้ำและเครื่องสูบน้ำอีก 0.60 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ขณะที่เขื่อนวชิราลงกรณ สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ มีน้ำไหลเข้า 70.01 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ระบายออก 43 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน สภาพท้ายน้ำปริมาณน้ำที่ระบายเพิ่มไม่ล้นตลิ่ง แต่อาจส่งผลกระทบต่อรีสอร์ตที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย และสุดท้าย เขื่อนศรีนครินทร์ มีน้ำไหลเข้า 47.63 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ระบายออก 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน สภาพท้ายน้ำปริมาณน้ำที่ระบายเพิ่มไม่ล้นตลิ่ง แต่อาจส่งผลกระทบต่อรีสอร์ตที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย