นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวถึงโครงการส่งเสริมด้านการตลาดผู้ประกอบการ SMEs ว่า สสว.มีมิติการตลาด 2 ด้าน คือ ตลาดออนไล์และออฟไลน์ โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับ 4 สถาบันให้องค์ความรู้ SMEs กับผู้ประกอบการได้เข้าใจเกี่ยวกับการค้าออนไลน์มากขึ้น ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีธัญญบุรี ดูแลภาคกลางและภาคตะวันตก มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ดูแลภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดูแลภาคเหนือ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ดูแลภาคใต้ โดยทั้ง 4 หน่วยงานจะกระจายเข้าไปดูแลผู้ประกอบการครอบคลุม 50,000 ราย ตั้งเป้าหมายจะสามารถโพสต์กว่า 100,000 ผลิตภัณฑ์เข้าไปอยู่บนออนไลน์ได้ในปีนี้
ส่วนการตลาดออฟไลน์ หรือออนกราวน์ สสว.จะพาไปขายจริง เนื่องจากมองว่าเป็นการตลาดที่สำคัญสำหรับ SMEs ในปัจจุบันนี้
ทั้งนี้ ผลการดำเนินการที่ผ่านมามีผู้ประกอบการสนใจจำนวนมากเข้าร่วมโครงการกว่า 25,000 ราย และสามารถนำสินค้าไปขายบนร้านค้าออนไลน์ได้ใน 15 มาเก็ตเพลส ขณะที่ สสว. ได้ออกแคมเปญ "SMEs 1 บาท" เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการได้ขายสินค้าออนไลน์ให้ได้ เพราะหลายรายยังไม่เคยขายสินค้าออนไลน์ได้จริง โดยจะนำสินค้าที่ได้รับการคัดเลือกมาขายให้ผู้บริโภคในราคา 1 บาท ทุกวันที่ 1 ของเดือน
นอกจากนี้ สสว.ยังมองว่าคงหลีกเลี่ยงเรื่องการแข่งขันไม่ได้ เพราะปัจจุบันมีการค้าเสรีมากขึ้น ดังนั้น จึงเห็นว่านอกจากการค้าออนไลน์แล้ว การค้าออฟไลน์ก็มีความสำคัญ ซึ่งจะต้องเชื่อมโยงทั้ง 2 แบบเข้าด้วยกัน เพื่อให้มีมิติทั้ง 2 ด้าน ซึ่งการค้าออนกราวน์ แบ่งออกเป็นในประเทศ และต่างประเทศ โดย สสว.ได้พาผู้ประกอบการไปขายสินค้าที่ต่างประเทศมาแล้ว เช่น ฮ่องกง มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีน โดยแต่ละกลุ่มลูกค้าว่าสินค้าใดควรเจาะตลาดไหน ทำของที่ใช่มีความแตกต่างโดนใจลูกค้าให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม อยากให้ผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการกับ สสว. เพราะปลายปีงบประมาณนี้ สสว.จะมีกิจกรรมเด่นอีกหลายโครงการ ซึ่งคนที่เข้าร่วมโครงการจะมีโอกาสขายสินค้าตามห้างสรรพสินค้าในประเทศไทยและนำสินค้าไปขายที่ต่างประเทศ เช่น มุมไบ ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยสามารถติดต่อไปยัง สสว.ได้ทั้งทางเว็บไซต์ของ สสว. www.sme.go.th หรือเฟซบุ๊ก Osmep สสว. และสายด่วน 1301