นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นเพื่อควบคุมดูแลเกี่ยวกับกรณีที่บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์และวีดีทัศน์ให้ความสนใจมาถ่ายทำภาพยนตร์หรือสารคดีเกี่ยวกับภารกิจการช่วยเหลือเยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี 13 คน ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่า คณะกรรมการดังกล่าวใช้ชื่อว่า คณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์กรณีถ้ำหลวงเชียงราย มีนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน ส่วนกรรมการให้นายวีระ ไปพิจารณาคัดเลือกเอง เมื่อรวบรวมรายชื่อเรียบร้อยแล้วรายงานให้ตนทราบต่อไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการดังกล่าว มีอำนาจหน้าที่เป็นศูนย์กลางควบคุม ปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้าจะเข้ามาใช้สถานที่จริงต้องขอกรมอุทยานแห่งชาติฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถ้าใช้บุคลากรที่ทำหน้าที่จริงต้องขอผู้บังคับบัญชา รวมถึงถ้าไปขอข้อมูลเด็กๆ ก็สามารถทำได้ แต่สิ่งที่เรากลัวคือการไปจับเด็กเหล่านี้ผูกมัดสัญญาในลักษณะที่เป็นการสงวนลิขสิทธิ์ จะพูดอะไรต้องผ่านตัวแทน จึงอยากให้คำแนะนำให้ระมัดระวัง เพราะเคยเกิดเช่นนี้ในต่างประเทศมาแล้ว อย่างเช่นที่ประเทศชิลี
นอกจากนี้ คณะกรรมการดังกล่าวยังทำหน้าที่เป็นศูนย์ข้อมูล หากใครต้องการสอบถาม รวมถึงทำหน้าที่ประสาน โดยขณะนี้มีบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ทั้งไทยและต่างประเทศที่สนใจติดต่อเข้ามาแล้วรวม 13 ราย ทั้งขอถ่ายทำในรูปแบบภาพยนตร์ เขียนหนังสือสารคดี นิยาย ละคร ซีรีส์ และเกมแอนิเมชัน ขณะเดียวกัน คณะกรรมการดังกล่าวยังทำหน้าที่ทำบันทึกจดหมายเหตุอย่างเป็นทางการ โดยจดหมายเหตุจะทำแบบภาษาไทย อังกฤษ และจีน จะทำอย่างสมบูรณ์ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควร และเตรียมทำนิทรรศการภาพถ่าย เพื่อแสดงหมุนเวียน อาจไปจัดแสดงทั่วโลกก็ได้ นี่คือภารกิจทั้งหมดที่ไม่ใช่การควบคุม แต่เป็นศูนย์กลางการจัดระเบียบ รวมถึงเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องให้กับเด็ก ผู้ปกครอง และชาวต่างชาติ ส่วนรัฐบาลสนใจจะจัดสร้างเองหรือไม่นั้น ต้องให้กระทรวงวัฒนธรรมไปพิจารณา เพราะการจัดทำมีหลายรูปแบบ เช่น รัฐบาลทำเองโดยว่าจ้างให้เอกชนจัดทำทั้งหมด หรือทำบางส่วน เพราะเรามีกองทุนสื่อสร้างสรรค์อยู่แล้ว โดยให้งบประมาณไปทำ