สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ว่า นายลู่ คัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า มาตรการของจีนในการตอบโต้กำแพงภาษีของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้ทันที และมีมูลค่าเท่ากัน โดยปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาเดียวกับที่มาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจากจีน 818 รายการ ซึ่งต้องเสียภาษีในอัตราร้อยละ 25 คิดเป็นมูลค่ารวม 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.12 ล้านล้านบาท มีผลบังคับใช้แล้วอย่างเป็นทางการ เมื่อเวลา 12.01 น. วันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง หรือ 00.01 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงวอชิงตัน ส่วนใหญ่พุ่งเป้าเล่นงานสินค้าเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการเมด อิน ไชนา 2025
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลวอชิงตันละเมิดกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศตามกรอบขององค์การการค้าโลก (WTO) และจุดชนวนสงครามการค้าครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลก พร้อมทั้งเตือนว่า กำแพงภาษีของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อห่วงโซ่อุปทานโลกด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อกลางเดือนที่แล้ว รัฐบาลปักกิ่งประกาศรายชื่อสินค้าของสหรัฐ 545 รายการ ต้องจ่ายภาษีในอัตราร้อยละ 25 รวมมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคมนี้ เช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตรรวมถึงถั่วเหลืองซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่จีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ สินค้าประมง และยานพาหนะ
นอกจากนี้ จีนตั้งกำแพงภาษีสินค้าของสหรัฐฯ 128 รายการ เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้ที่รัฐบาลวอชิงตันเพิ่มกำแพงภาษีร้อยละ 25 และร้อยละ 10 สำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กและอะลูมิเนียม ซึ่งจีนเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าทั้งสองชนิดเป็นรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยกำแพงภาษีสูงสุดร้อยละ 25 ครอบคลุมสินค้า 8 รายการ รวมถึงเนื้อสัตว์แช่แข็ง อาทิ เนื้อหมู และผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม ส่วนอีก 120 รายการรวมถึงไวน์ ผลไม้แห้ง ผลไม้สด ถั่วเปลือกแข็ง และท่อเหล็ก จะต้องจ่ายภาษีร้อยละ 15