นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ และรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ขสมก. มีรถเมล์ประมาณ 2,600 กว่าคัน แบ่งเป็นรถเมล์ธรรมดา 1,560 คัน และรถเมล์ปรับอากาศ 1,040 คัน มีอายุการใช้งานระหว่าง 20-27 ปี ทำให้รถเมล์เหล่านี้มีประสิทธิภาพการใช้งานไม่เท่ารถเมล์ใหม่ 100% จากสาเหตุดังกล่าวทำให้เกิดปัญหารถเมล์เสียระหว่างทางประมาณ 4-5 คันต่อวัน ดังนั้น ขณะที่ ขสมก. อยู่ระหว่างเร่งรัดจัดหารถเมล์ใหม่ 3,000 คันให้ได้ตามแผนฟื้นฟูฯ อาทิ การจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน แต่เพิ่งรับมอบไป 100 คัน เพราะติดปัญหาทางคดีที่ ขสมก. ไม่ได้รับมอบรถจากปัญหาถูกกรมศุลกากรอายัดรถ จากปมปัญหาเลี่ยงภาษีนำเข้า บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะคดีครั้งก่อนฟ้องร้องศาลปกครองทำให้ศาลฯ สั่งชะลอการรับมอบรถ
อย่างไรก็ตาม ขสมก. ได้กำชับให้พนักงานตรวจสอบความพร้อมของรถให้มีสภาพพร้อมใช้งาน ก่อนนำรถออกมาวิ่ง และซ่อมแซมบำรุงรักษารถสม่ำเสมอ ตลอดจนล่าสุดได้ออกมาตรการวิธีการปฏิบัติสำหรับพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสาร กรณีรถเสียในเส้นทาง หรือเกิดอุบัติเหตุและถ่ายผู้โดยสาร เพื่อให้ทั้ง 8 เขตการเดินรถ ขสมก. เกิดแนวทางการปฏิบัติที่เหมือนกัน และอำนวยความสะดวกให้ประชาชน กรณีรถเสียในเส้นทางหรือเกิดอุบัติเหตุสำหรับการเดินรถในเวลาปกติ และรถบริการตลอดคืน หรือรถกะสว่าง หากรถเมล์ร้อนเสีย หรือเกิดอุบัติเหตุต้องถ่ายผู้โดยสาร ให้ผู้โดยสารถือตั๋วไว้ต่อรถสายเดียวกันคันที่ตามมาได้เฉพาะรถร้อน หากเป็นรถเมล์แอร์ ผู้โดยสารต้องชำระค่าโดยสารใหม่ตามระยะทางจากจุดที่ต่อรถจนถึงป้ายที่ผู้โดยสารลง ส่วนกรณีรถเมล์แอร์เสีย หรือเกิดอุบัติเหตุต้องถ่ายผู้โดยสาร ให้ผู้โดยสารถือตั๋วไว้ต่อรถสายเดียวกันคันที่ตามมาได้ ทั้งรถเมล์ร้อนและรถเมล์แอร์ โดยไม่ต้องเสียค่าโดยสารเพิ่ม
นอกจากนี้ กรณีผู้โดยสารต่อรถต่างสายเดินรถกับรถเมล์ที่เสียหรือเกิดอุบัติเหตุ ผู้โดยสารต้องชำระค่าโดยสารใหม่ ตามระยะทางจากจุดที่ต่อรถถึงจุดที่ผู้โดยสารลง ยกเว้นกรณีรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนพิเศษ โดยถ้ารถเมล์ร้อนและรถเมล์แอร์เสียหรือเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนต้องถ่ายผู้โดยสารให้รถสายเดียวกัน หรือต่างสายต่างประเภทรถได้ โดยผู้โดยสารไม่ต้องชำระค่าโดยสารเพิ่ม จากจุดที่รถเสียถึงป้ายแรกที่ลงจากทางด่วน ทั้งนี้ หากเป็นกรณีสายเดียวกัน รถเมล์เดียวกัน ประเภทเดียวกันที่เสียหรือเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน ผู้โดยสารไม่ต้องชำระค่าโดยสารเพิ่ม เดินทางได้ตามระยะที่ระบุไว้จากตั๋วรถคันที่เสียหรือเกิดอุบัติเหตุ
ส่วนรถเมล์ร้อนเสียหรือเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน ถ่ายผู้โดยสารให้รถเมล์แอร์ ซึ่งผู้โดยสารต้องชำระค่าโดยสารใหม่ ระยะทางจากป้ายแรกที่ลงทางด่วนถึงป้ายที่ผู้โดยสารนั้นลง ขณะเดียวกัน หากรถเมล์แอร์เสียหรือเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน ถ่ายผู้โดยสารให้รถเมล์ร้อนในเส้นทางเดียวกัน และผู้โดยสารไม่ต้องชำระค่าโดยสารเพิ่ม
ทั้งนี้ กรณีต่างสายเดินรถ ผู้โดยสารต่อรถเมล์ด้วยรถสายอื่น ที่รับถ่ายมาจากรถเสียหรือรถเกิดอุบัติเหตุผู้โดยสารต้องชำระค่าโดยสารใหม่ โดยคิดจุดเริ่มต้นจากป้ายแรกที่ลงทางด่วน ถึงป้ายที่ผู้โดยสารนั้นลง