นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในการประชุมสุดยอดผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy : ACMECS) หรือการประชุม ACMECS CEO Forum ภายใต้หัวข้อ Connecting our Future : Enhancing ACMECS Cooperation and Integration โดยระบุว่า เเต่ละประเทศต่างมีนโยบายและมาตรการสร้างแรงจูงใจทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาคือ หากทุกประเทศต่างดำเนินนโยบาย แล้วแข่งกันเองในภูมิภาค ภูมิภาคก็จะไม่สามารถเติบโตเข้มแข็งได้ แต่หากทุกประเทศร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินมาตรการต่างๆ ระหว่างกัน ภูมิภาคก็จะเติบโตได้อย่างมั่นคง จึงคิดว่า ACMECS ต้องมีมาสเตอร์แพลนในการวางแผนจัดการร่วมกัน ต้องมียุทธศาสตร์ มีความเชื่อใจ และมีการเชื่อมโยงกันในภูมิภาค หากทุกประเทศลดอัตตาลงได้ ภูมิภาคและ ACMECS ก็จะเติบโตอย่างมั่นคง แต่ประเทศใดยังไม่ตระเตรียม นิ่งเฉย จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง โดยผู้ที่จะขับเคลื่อนประเทศไม่ใช่ภาครัฐแล้ว แต่เป็นภาคเอกชนที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจแทน เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ภาคเอกชนจะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ
นายสมคิด กล่าวว่า ขณะนี้ทั้งสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ต่างก็ให้ความสนใจภูมิภาคนี้ ดังนั้นการมีมาสเตอร์แพลนของ ACMECS จะเป็นตัวสร้างความเข้มแข็งให้ภูมิภาคได้ดียิ่งขึ้น ตนจึงหวังว่าการประชุมในวันพรุ่งนี้จะสามารถเขียนแผนมาสเตอร์แพลนของ ACMECS ออกมาได้ เพื่อความมั่นคงร่วมกันของแต่ละประเทศ