สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ออกแถลงการณ์เตือนภัยพลเมืองในเวียดนามให้เพิ่มความระมัดระวังในการดำเนินชีวิต และติดตามข่าวสาร รวมถึงคำเตือนจากหน่วยงานรัฐอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งระบุด้วยว่า รัฐบาลปักกิ่งติดตามความเคลื่อนไหวของการรวมกลุ่มอย่างผิดกฎหมาย และกรณีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อต้านจีนในเวียดนาม
ขณะที่สมัชชาแห่งชาติของเวียดนามประกาศเลื่อนการประชุมของสมาชิก จากเดิมที่จะมีขึ้นเมื่อวันจันทร์ ในการอภิปรายและลงมติเกี่ยวกับร่างกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถเช่าที่ดินภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษหลายแห่งของประเทศได้นานสูงสุดถึง 99 ปี แม้เนื้อหาของร่างกฎหมายไม่ได้ระบุชื่อของประเทศใดประเทศหนึ่งอย่างชัดเจน แต่ชาวเวียดนามส่วนใหญ่มีความคิดเห็นตรงกันว่า หมายถึงจีน
ด้านนายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุก กล่าวว่า ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกมากจนเกินไปกับเนื้อหาของร่างกฎหมายดังกล่าว โดยยืนยันว่าเป็นนโยบายทซึ่งมีวัตถุประสงค์มุ่งพัฒนา 3 จังหวัดในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ของประเทศ และสมัชชาแห่งชาติรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในเวียดนาม พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่า จะรลดระยะเวลาของสัญญาเช่า แต่ปฏิเสธลงลึกในรายละเอียด
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมประท้วงของประชาชนเพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา และมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งจับกุมผู้ก่อความไม่สงบแล้วอย่างน้อย 102 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงฮานอยและเมืองโฮจิมินห์
ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมยังประท้วงต่อต้านร่ากฎหมายไซเบอร์ฉบับใหม่ด้วย ส่งผลให้สถานการณ์ถือว่ามีความตึงเครียดและรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งในครั้งนั้นเป็นการประท้วงต่อต้านโรงงานของบริษัทแห่งหนึ่งจากไต้หวัน ซึ่งลักลอบปล่อยของสิ่งปฏิกูลลงในทะเล จนปลาตายเป็นจำนวนมาก