xs
xsm
sm
md
lg

ออกหมายจับ"สีกา-คนสนิท"ช่วย"อดีตพระพรหมเมธี"หลบหนี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ความคืบหน้าการติดตามจับกุมตัวอดีตพระพรหมเมธี หรือเจ้าคุณจำนงค์ เอี่ยมอินทรา อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม หนึ่งในผู้ต้องหาความผิดคดีทุจริตเงินทอนวัดที่หลบหนี ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) ทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน โดยทิ้งหลักฐานเป็นรถตู้ ทะเบียน 3 กภ 8672 กรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้ในการหลบหนีจากกรุงเทพมหานคร และนำไปจอดทิ้งไว้ใกล้กุฏิเจ้าอาวาสวัดป่าสุคนธรักษ์ บ้านค่ายเสรี ต.นางาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม กระทั่งมีการประสานจับตัวได้ที่ประเทศเยอรมนี และอยู่ระหว่างการเจรจาขอตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย

ล่าสุด วันนี้ (7 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวสีกาคนสนิทที่ให้ความช่วยเหลือในการหลบหนี คือ นางศศิร์อร เจียมวิจิตรกุล อายุ 54 ปี ตรวจสอบประวัติพบว่า เป็นคนมีฐานะร่ำรวย เจ้าของธุรกิจหลายอย่าง นอกจากนี้ ยังมีสามีประกอบธุรกิจเหมืองแร่ใน สปป.ลาว ทำให้รู้ช่องทางเลี่ยงการจับกุม สามารถพาหนีออกนอกประเทศได้ รวมทั้งมีลูกศิษย์คนสนิทอีก 1 รายคือ นายพีรวิช ศรีศรัทธา อายุ 28 ปี อยู่ในการควบคุมของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพบว่ามีชาวลาวอีก 3 คน ที่ร่วมให้การช่วยเหลือด้วย

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ตำรวจ จ.นครพนม รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดนครพนมอนุมัติออกหมายจับบุคคลที่ให้การช่วยเหลือพระจำนงค์รวม 5 ราย ได้แก่ นางศศิร์อร เจียมวิจิตรกุล อายุ 54 ปี สีกาคนสนิท นายพีรวิช ศรีศรัทธา อายุ 28 ปี คนที่คอยให้การช่วยเหลือ ส่วนอีก 3 คน เป็นชาวลาวอยู่ในระหว่างการหลบหนี ซึ่งจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษ จำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


กำลังโหลดความคิดเห็น