นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการหารือความก้าวหน้ามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง สมาคมแช่เยือกแข็งไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำร่วมกัน โดยมีมติเสนอความช่วยเหลือในโครงการประชารัฐรักษาเสถียรภาพราคากุ้งขาวแวนนาไม ปี 2561 ดำเนินการรับซื้อกุ้งขาวแวนนาไมจากเกษตรกรในราคานำตลาด เพื่อพยุงไม่ให้สถานการณ์ราคากุ้งตกต่ำอย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมายจำนวน 10,000 ตัน ระยะเวลา 60 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม –23 กรกฎาคม 2561 ขณะนี้สถานการณ์ราคากุ้งขยับตัวขึ้นเป็น 120 บาทต่อกิโลกรัม (กุ้งขนาด 100 ตัวต่อกิโลกรัม) จากเดิมราคา 105 - 110 บาทต่อกิโลกรัม
สมาคมแช่เยือกแข็งไทยได้เข้าชี้แจงความก้าวหน้าโครงการประชารัฐรักษาเสถียรภาพราคากุ้งฯ ขณะนี้รับซื้อได้เพียง 195 ตัน จากเป้าหมาย 10,000 ตัน เนื่องจากมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยเป็นหลัก ซึ่งมีต้นทุนการเลี้ยงสูง และขั้นตอนดำเนินการจับคู่ธุรกิจซับซ้อน จึงทำให้ใช้เวลานานกว่ากระบวนการรับซื้อจะแล้วเสร็จ ซึ่งทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ขอความร่วมมือสมาคมแช่เยือกแข็งไทย ขยายเวลารับซื้อกุ้งให้ครบ 10,000 ตันต่อไป
ขณะเดียวกัน สมาพันธ์เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งไทย ยื่นข้อเสนอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมใน 3 ประเด็น ประกอบด้วย ขอให้ช่วยเหลือดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในอัตราร้อยละ 3 ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประสานกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอเรื่องต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ ขอให้ปรับอัตราค่าไฟฟ้าเป็นอัตราไฟเกษตร เป็นระยะเวลา 2 เดือน โดยได้ประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และกระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาแล้ว และการขอเลี้ยงกุ้งในเขตชายฝั่ง และการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด โดยกระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลโดยตรงรับไปพิจารณาต่อไป