นายศิวะ ศรีชาย แกนนำเกษตรกรชาวสวนยาง จ.พัทลุง เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 บริหารโดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) นั้น ไม่เคยประสบความสำเร็จ เพราะมีปัญหาขาดทุนมาต่อเนื่อง ไม่ได้ช่วยยกระดับความเป็นอยู่เกษตรกร โดยเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางจะยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อขอให้ปลด พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานบอร์ด กยท. และนายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าฯ กยท.ออกไป และเร่งจัดหาคนที่มีความรู้ความสามารถเรื่องยางมาทำหน้าที่ดูแลเกษตรกรสวนยางโดยเร็ว
ทั้งนี้ เกษตรกรชาวสวนยางเดือดร้อนราคายางตกต่ำมาหลายปี ขณะนี้ยังไม่มีทิศทางดีขึ้น ชาวสวนยางทนไม่ได้ ปัญหาสะสมมาไม่มีใครแก้ไขให้ได้ แทนที่ กยท.เป็นหน่วยงานใหม่จะเข้ามาแก้ไขบรรเทาความทุกข์เกษตรกรสวนยาง แต่กลับเป็นหน่วยงานสร้างปัญหาซ้ำเติมเกษตรกรสวนยางเลวร้ายขึ้นไปอีก ชาวสวนยางทั่วประเทศจะเรียกร้องไปถึงนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้สรรหา ให้ปลดออกไป เพราะรับไม่ได้ และไม่ทนอีกต่อไป พร้อมทั้งเรียกร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาเปลี่ยนตัวบุคคลเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เอาประธานบอร์ด กยท.และผู้ว่าฯ กทย.ออกไปจากตำแหน่ง เร่งสรรหาบุคคลมาแทนโดยเร็ว โดยขอให้เป็นคนมีความรู้ เข้าใจการตลาด เข้าใจหัวอกเกษตรกรสวนยาง รู้ขบวนการผลิตยางดีกว่านี้ หากปล่อยเช่นนี้ต่อไปชาวสวนยางแย่ทั้งประเทศ ตอนนี้รายได้หายไปครึ่งต่อครึ่ง ขณะที่สินค้าอื่นราคาสูงขึ้น ดังนั้น ภายในสัปดาห์นี้ม็อบยางจะยกระดับทั่วประเทศ ขับไล่ประธานบอร์ดและผู้ว่าฯ กยท.
ด้านนายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สยยท.) กล่าวว่า ล่า สุดกองบังคับการปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) กำลังตรวจสอบเรื่องการจัดประมูลปุ๋ย 6 หมื่นตัน ของ กยท.ที่มีราคาแพง ซึ่งการบริหารงานขาดทุนของ กยท. 800 ล้านบาทต่อปี ส่วนหนึ่งมาจากไม่ยอมรัดเข็มขัด ทำให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เคยแถลงต่อสื่อว่า หาก กยท.ขาดทุนมากๆ ก็จะยุบทิ้ง โดยเรื่องนี้ตรงใจเกษตรกรสวนยาง ที่อยากให้ยุบ กยท. เพราะบริหารไม่เป็น ถ้างดเก็บเงินค่าธรรมเนียมส่งออกยางเกษตรกรก็จะได้เพิ่มขึ้น 2 บาทต่อกิโลกรัม ให้เกษตรกรพึ่งตนเองจะดีกว่าที่มีคนไม่รู้เรื่องมากำกับดูแล