นาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย เปิดเผยภายหลังเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ MACC ในวันนี้ (24 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันที่สอง นานถึง 9 ชั่วโมง โดยเขาได้ให้ถ้อยแถลงทั้งหมดเกี่ยวกับเงินจำนวน 10 ล้าน 6 แสนดอลลาร์ ที่มีการโอนอย่างลึกลับเข้าไปในบัญชีส่วนตัวของเขา ซึ่งคณะกรรมการระบุว่าถ้อยแถลงของเขาถือว่าเสร็จสมบูรณ์แล้ว
การสอบสวนเรื่องอื้อฉาวนี้ เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งเบื้องต้นพุ่งเป้าไปที่การถ่ายโอนเงินกว่า 10 ล้านดอลลาร์จากบริษัทเอสอาร์ซี อินเตอร์แนชั่นน่อลไปยังบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบ โดยรัฐบาลของนายนาจิบเป็นผู้ตั้งบริษัทแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี 2554 เพื่อให้ติดตามการลงทุนในต่างประเทศในส่วนของทรัพยากรด้านพลังงาน และเป็นหน่วยหนึ่งของกองทุนวันเอ็มดีบี จนกระทั่งถูกย้ายออกจากกระทรวงการคลังเมื่อปี 2555
สำหรับเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่หายไปจากกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติมาเลเซีย หรือ วันเอ็มดีบี ที่นายนาจิบเป็นผู้ก่อตั้งขึ้น
การสอบสวนเรื่องอื้อฉาวนี้ เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งเบื้องต้นพุ่งเป้าไปที่การถ่ายโอนเงินกว่า 10 ล้านดอลลาร์จากบริษัทเอสอาร์ซี อินเตอร์แนชั่นน่อลไปยังบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบ โดยรัฐบาลของนายนาจิบเป็นผู้ตั้งบริษัทแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี 2554 เพื่อให้ติดตามการลงทุนในต่างประเทศในส่วนของทรัพยากรด้านพลังงาน และเป็นหน่วยหนึ่งของกองทุนวันเอ็มดีบี จนกระทั่งถูกย้ายออกจากกระทรวงการคลังเมื่อปี 2555
สำหรับเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่หายไปจากกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติมาเลเซีย หรือ วันเอ็มดีบี ที่นายนาจิบเป็นผู้ก่อตั้งขึ้น