นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยระหว่างการนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและอาหารปรุงสำเร็จ ณ ศูนย์อาหารตลาดกลางบางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ผลกระทบหลังจากที่ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ได้ปรับขึ้นราคาเป็นถังละ 395 บาท (ถัง 15 กก.) และการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าทั้งอาหารปรุงสำเร็จและสินค้าอุปโภคบริโภค เพราะผลการศึกษาของกระทรวงพาณิชย์พบว่ามีต้นทุนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่สามารถใช้เป็นเหตุผลในการปรับขึ้นราคาได้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ พบว่าพ่อค้าแม่ค้ายังมีการจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จในราคาเดิม ไม่มีการปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด ซึ่งได้ขอความร่วมมือให้มีการตรึงราคาเดิมเอาไว้ เพราะก๊าซหุงต้มที่เพิ่มขึ้นนั้น พบผลการศึกษาของกรมการค้าภายใน ระบุว่า กระทบต่อต้นทุนการผลิตเพียงเล็กน้อยแค่ 15-20 สตางค์เท่านั้น จึงไม่สามารถใช้เป็นเหตุผลในการปรับขึ้นราคาได้
ส่วนสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป พบว่ายังคงมีการจำหน่ายเป็นปกติ ไม่พบว่ามีสินค้ารายการใดปรับขึ้นราคา และจากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้า ก็ไม่พบว่า มีการแจ้งปรับขึ้นราคาจากผู้ผลิตเข้ามาแต่อย่างใด ซึ่งสอดคล้องกับที่กระทรวงพาณิชย์ได้รับการยืนยันจากผู้ผลิตว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นราคาในช่วงนี้ และเท่าที่ตรวจสอบกับกรมการค้าภายใน ก็ยังไม่มีผู้ผลิตรายใดยื่นเรื่องปรับขึ้นราคาเข้ามา แต่เพื่อไม่เป็นการประมาท ในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ จะมีการหารือกับผู้ผลิตสินค้า (ซัพพลายเออร์) เพื่อประเมินสถานการณ์กันต่อไป