น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยหลังประชุมหารือกับกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับระเบียบกระทรงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างโดยใช้เงินนอกงบประมาณ พ.ศ.2561 โดยยืนยันว่า ระเบียบที่ออกมาไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อพนักงานและลูกจ้างของราชการ เพราะรัฐต้องการแค่จัดระเบียบข้อมูลพนักงานและลูกจ้างนอกงบว่ากี่คน ใช้เงินงบประมาณเท่าไร โดยเฉพาะของกระทรวงสาธารณสุข ยิ่งไม่ได้รับผลกระทบใหญ่ เพราะเมื่อเดือนเมษายน ได้แจ้งคลังมาแล้วว่าจะจ้างพนักงานและลูกจ้างนอกเงินงบประมาณแบบ 1 ปี 7,900 อัตรา และแบบ 4 ปี 31,000 อัตรา ซึ่งน่าจะได้รับอนุมัติทั้งหมด อีกทั้งยังมีระเบียบการใช้เงินบำรุงซึ่งเป็นเงินนอกงบประมาณของตัวเองกำกับดูแลอีกชั้นหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากความเข้าใจ การสื่อสารที่ไม่ตรงกันระหว่างคนเขียนกฎหมาย และคนที่อ่านกฎหมาย ทำให้เกิดการสื่อความที่คลาดเคลื่อนกัน ทั้งที่จริงแล้วหากทำความเข้าใจกันได้ ระเบียบนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร
สำหรับระเบียบกระทรวงการคลัง ได้กำหนดการว่าจ้างพนักงานและลูกจ้างแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ หน่วยงานที่ได้ทำการตกลงกับกระทรวงการคลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่น กระทรวงสาธารณสุข ก็ให้ดำเนินการตามข้อตกลง และหน่วยงานใดที่ยังไม่ตกลงกับกระทรวงการคลัง แต่มีการว่าจ้างพนักงานและลูกจ้างไปแล้ว ก็ให้ว่าจ้างลูกจ้างดังกล่าวต่อไปจนสิ้นสุดสัญญา แต่หากจะต่อสัญญาใหม่ก็ต้องทำเรื่องเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาก่อน ซึ่งโดยปกติแล้วหากอัตรากำลังมีความเหมาะสมกับเนื้องานก็จะพิจารณาให้ แต่ถ้าหน่วยงานไหนไม่พอใจก็สามารถขอทบทวนได้
ทางด้านนายเจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขอให้ทุกคนสบายใจ ทำงานให้เต็มที่ เพราะกรมบัญชีกลางยืนยันแล้วว่าจะไม่กระทบกับการว่าจ้างพนักงานชั่วคราวของโรงพยาบาลต่างๆ ไม่มีการลดอัตรา และที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้ทำข้อตกกับกรมบัญชีกลางไปเรียบร้อย รวมถึงการจ้างพนักงานลูกจ้างที่ใช้เงินบำรุงก็ปฏิบัติเหมือนเดิม และในอนาคตหากมีความจำเป็น ก็ยังสามารถขออนุมัติเพิ่มอัตราให้เพียงพอต่อการบริการถึงประชาชนได้ด้วย
ขณะที่
นายธวัช สุนทราจารย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า แรงกระเพื่อมครั้งนี้เกิดจากการเผยแพร่ระเบียบในสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดการตีความคลาดเคลื่อน แต่จากการหารือกับกรมบัญชีกลาง ได้รับความชัดเจนแล้วว่าไม่มีปัญหา โดยในส่วนแพทย์ชนบทที่จะประท้วงเพราะกังวลว่าลูกน้องจะได้รับผลกระทบนั้น เมื่อทำความเข้าใจชัดแล้วก็จะแจ้งข่าวไปยังผู้เกี่ยวข้องว่า การจ้างพนักงานและลูกจ้างยังปกติ เคยทำอย่างไรก็ทำไปอย่างนั้น