สธ.ย้ำขึ้นทะเบียนยาต้องทำตาม ก.ม.ยืนยันไม่เคยกลั่นแกล้ง"หมอแสง"

นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีชมรมผู้ป่วยมะเร็งชลบุรี จำนวนกว่า 100 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงกระทรวงสาธารณสุข ผ่านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เรียกร้องให้ขึ้นทะเบียนรับรองสมุนไพรรักษามะเร็งของนายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือ หมอแสง โดยระบุว่า ผู้ป่วยที่รับยาหมอแสงแล้วอาการดีขึ้น ทุเลาความเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด ว่า หากจะขึ้นทะเบียนเป็นยา จะต้องทำไปตามขั้นตอนของกฎหมายเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนยา ซึ่งเชื่อว่าหมอแสงเองก็รู้ว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร และที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขไม่เคยระบุว่า ห้ามหมอแสงแจกสมุนไพร ส่วนผลการศึกษาที่ออกมาก่อนหน้านี้ ก็เป็นไปตามผลจากการศึกษาจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่สิ่งที่ประชาชนระบุว่าอาการดีขึ้น อาจจะเป็นเรื่องของภูมิคุ้มกัน หรือสภาวะจิตใจที่ดีขึ้น เพราะฉะนั้นยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขไม่เคยทำลายความหวังของประชาชน

ส่วนที่ก่อนหน้านี้ประชาชนมองว่ากระทรวงสาธารณสุขกลั่นแกล้งหมอแสง จากการเปิดเผยผลการศึกษาสมุนไพรของหมอแสงว่าไม่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองนั้น นายแพทย์ปิยะสกล กล่าวว่า คิดว่าเป็นความเชื่อในความเห็นของตัวเองมากกว่า แต่กระทรวงสาธารณสุขจะไม่แถลงสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ เป็นวิจารณญาณของประชาชน กระทรวงสาธารณสุขไม่มีอคติในเรื่องใดๆ เมื่อแจ้งความจริงให้กับประชาชนแล้ว ก็เอาความจริงนั้นไปประมวล และมีวิจารณญาณเองว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร

ขณะที่นายแพทย์วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนยา จะต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.ยา ซึ่งคนที่จะขึ้นทะเบียนยา ต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้ โดยเจ้าของหรือผู้ยื่นขอขึ้นทะเบีนยาตัวใดตัวหนึ่ง จะต้องมายื่นต่อ อย. แล้ว อย.จะมีผู้เชี่ยวชาญพิจารณาอย่างรอบคอบใน 3 ด้าน คือ ประสิทธิภาพ ที่ต้องมีการศึกษาวิจัยที่เป็นมาตรฐานรองรับว่าได้ผลในการรักษาโรคนั้นจริงๆ ด้านความปลอดภัย จะต้องไม่มีการปนเปื้อน ปลอมปนสารอันตรายหรือเชื้อโรคต่างๆ และด้านคุณภาพ ยาที่ขึ้นทะเบียนจะต้องมีคุณภาพ เช่น กรณีเป็นยาที่บรรจุในแผง 10 เม็ด ยาทั้ง 10 เม็ดนั้นต้องมีน้ำหนัก/ปริมาณสารสำคัญที่เหมือนกันทุกเม็ด

ทั้งนี้ เลขาธิการ อย. ย้ำว่า การขึ้นทะเบียนยาต้องมีข้อมูลวิชาการรองรับ ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ และเป็นสากล ไม่ใช่การขึ้นทะเบียนตามความรู้สึก ความเชื่อ กรณีการขึ้นทะเบียนยาสมุนไพรก็จะต้องยึดหลัก 3 ประการดังกล่าวเช่นเดียวกัน