xs
xsm
sm
md
lg

กรมทางหลวงยืนยัน ต.ค.นี้คันทางรถไฟไทย-จีนแล้วเสร็จ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ตามความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนหรือรถไฟไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ -หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา) ช่วงที่ 1 จากสถานีกลางดง – สถานีปางอโศก จ. นครราชสีมา ระหว่าง กม.ที่ 150+500 - กม.ที่ 154+000 ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ขณะนี้คืบหน้าไปแล้วร้อยละ 8 โดยนายอาคม ได้สอบถามปัญหาการก่อสร้างและการทำงานร่วมกับวิศวกรจีนและบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งไม่มีปัญหาแต่อย่างใด





นายธานินทร์ กล่าวต่อว่า กรมทางหลวงดำเนินการก่อสร้างตามแผนอย่างเต็มที่หลังจากได้รับงบประมาณก่อสร้างมาร้อยละ 30 หรือประมาณ 112 ล้านบาท จากที่ตั้งไปทั้งหมด 425 ล้านบาท ส่วนที่เหลือการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะทยอยจ่ายภายหลัง สำหรับการก่อสร้างคาดว่าอีก 4 เดือน หรือประมาณเดือนสิงหาคม จะก่อสร้างคันดินแล้วเสร็จ และอีก 2 เดือนต่อไปจะเป็นการก่อสร้างท่อระบายน้ำ ส่วนที่กรมทางหลวงรับผิดชอบก่อสร้างคันทางของรางรถไฟจะแล้วเสร็จทั้งหมดในเดือนตุลาคมนี้ ตามแผนที่วางไว้แน่นอน เพื่อส่งมอบให้ ร.ฟ.ท.ไปก่อสร้างในส่วนของงานวางรางต่อไป





นอกจากนี้ นายอาคม ยังตรวจโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-โคราชระยะทาง 196 กิโลเมตร คืบหน้าแล้วร้อยละ 38 จากแผนที่กำหนดไว้ร้อยละ 31 เร็วกว่าแผนอยู่ร้อยละ 7 กรมทางหลวงได้รายงานปัญหาการดำเนินการต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณ ตอน 35 ช่วงผ่านเรือนจำคลองไผ่ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งมีเขตทางติดกับเรือนจำ และเป็นการก่อสร้างทางยกระดับ กรมทางหลวงอยู่ระหว่างเร่งออกแบบเป็นอุโมงค์แก้วยกระดับระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ป้องกันไม่ให้มีการโยนวัสดุหรือสิ่งแปลกปลอมจากผู้ใช้ทางเข้าเรือนจำ คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณก่อสร้าง 200 ล้านบาท อยู่ในกรอบงบประมาณเดิมไม่ต้อของบเพิ่ม



ยกเว้นเรื่องเงินเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนในโครงการที่ต้องขอเพิ่ม ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้สั่งให้กรมทางหลวงรวบรวมปัญหาเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป

สำหรับกำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จยังเป็นไปตามในปี 2562 และเปิดให้บริการปี 2563


กำลังโหลดความคิดเห็น