นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า วันนี้ (4 พ.ค.) กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลยื่นขอสิทธิ์สำรวจและผลิตปิโตรเลียมแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/61 และ G2/61 ตามทีโออาร์การเปิดประมูลภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (Production Sharing Contract : PSC) เข้ายื่นแสดงความจำนงเพื่อเข้าร่วมการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น เพื่อคัดเลือกเข้าร่วมประมูลยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยมีบริษัทเข้ามายื่นเอกสารแสดงความจำนงเข้าร่วมการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น 6 บริษัท ได้แก่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด บริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม(ประเทศไทย) จำกัด บริษัท โอเอ็มวี แอคเทียนวีเซลสคาฟท บริษัท โททาล อี แอนด์ พี ไทยแลนด์ จำกัด และกิจการร่วมค้า ประกอบด้วย พลังงานสะอาด 101 , Haicheng Petroleum Machinery Manufacture Group ซึ่งเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจแห่งจีน, AL Jaber gruop โดยมีเพียงโททาล บริษัทเดียวที่ยื่นเจตจำนงจะประมูลแหล่งเดียว คือ แหล่งเอราวัณ ส่วนอีก 5 ราย ยื่นเจตจำนงจะประมูลทั้ง 2 แหล่ง
สำหรับขั้นตอนต่อไป บริษัทที่เข้ามายื่นเอกสารแสดงความจำนงดังกล่าวจะต้องนำเอกสารหลักฐานที่แสดงคุณสมบัติเบื้องต้นตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้มายื่นให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ระหว่างวันที่ 15-16 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 10 วัน และจะประกาศผลผู้ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นในวันที่ 28 พฤษภาคม 2561
รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า การประมูลครั้งนี้เชื่อมั่นว่าจะเกิดการแข่งขันรุนแรง เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ไฟฟ้า เพราะทุกรายที่มาเป็นรายใหญ่ช่วยสร้างสีสัน ขณะที่บางรายได้ระบุว่าพร้อมจะเสนอราคาแข่งขันก๊าซที่ต่ำ โดยภาพรวมแล้วการเดินหน้าประมูลจะเป็นไปตามแผนที่ประกาศไว้ คือ ได้ผู้ชนะเดือนธันวาคมนี้ และลงนามในสัญญาเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งหลังลงนาม ผู้ชนะต้องยื่น performance guarantee สำหรับแหล่งบงกช 3,500 ล้านบาท แหล่งเอราวัณ 5,000 ล้านบาท หากไม่ลงทุนตามข้อกำหนดใน 1 ปี หลังดำเนินการแล้วก็จะถูกยึดเงินส่วนนี้