นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศครั้งที่ 1 ว่า ที่ประชุมวันนี้ (4 พ.ค.) ได้สรุปผลการทำงานของคณะกรรมการปฏิรูปทั้ง 11 ด้าน และอีก 2 ด้าน คือ คณะกรรมการปฏิรูปการศึกษา และคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ โดยได้ขอให้ทุกคณะฯ ส่งข้อเสนอปฏิรูปเร่งด่วน 30 เรื่อง กฎหมายที่ต้องแก้ไข 100 เรื่อง กฎหมายที่ต้องร่างใหม่ 80 เรื่อง การลดขนาด ยุบโครงสร้าง และตั้งกระทรวง ทบวง กรมใหม่ 60 เรื่อง รวมถึงโครงการสำคัญตามแผนปฏิรูปประเทศ หรือ flagship 110 เรื่อง มายังคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
สำหรับการทำงานของคณะกรรมการฯ จะนำข้อเสนอจัดทำให้เป็นรูปธรรม โดยกำหนด 5 ประเด็นหลักที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน ประกอบด้วย ประเด็นแรก การปฏิรูประบบราชการ และการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน หากเรื่องใดมีความสำคัญและจำเป็น คณะกรรมการต้องขอให้หัวหน้า คสช. ออกคำสั่งมาตรา 44 เพื่อให้การขับเคลื่อนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว อาทิ พ.ร.บ.ป่าไม้ ที่เตรียมเสนอเป็นเรื่องแรกๆ พร้อมกันนี้ จะกำหนดให้แต่ละกระทรวงจัดทำแผนปฏิรูป เพื่อส่งให้คณะรัฐมนตรีภายใน 2 เดือน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นกระทรวงแรกที่เริ่มดำเนินการ ต่อด้วยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
ประเด็นที่สอง ต้องแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้อง การกินดีอยู่ดีของประชาชน โดยเตรียมเสนอ พ.ร.บ.ป่าชุมชน เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า
ประเด็นที่สาม การปฏิรูปเพื่อปราบโกง ลดการทุจริตคอร์รัปชัน โดยจะทำงานร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) เพื่อปฏิรูปการพิจารณาคดีที่ค้างคาอยู่เป็นจำนวนมาก
ประเด็นที่สี่ การปฏิรูปทั้งหมดต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในเสริมสร้างประชาธิปไตยของประเทศ
ประเด็นที่ห้า การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งคณะกรรมฯ จะเตรียมเสนอตั้งสำนักงานแก้ปัญหาความยากจน โดยจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง สศช.กับสำนักงบประมาณ
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ จะพิจารณาเรื่องกลไกการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ซึ่งจะมีการประชุมในทุกวันศุกร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าของการปฏิรูป ขณะเดียวกัน คณะกรรมการฯ จะประสานการทำงานกับคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ 11 คณะ + 2 คณะ และจัดทำแผนการสื่อสารกับประชาชน เพื่อให้รับรู้ว่ารัฐบาลกำลังดำเนินการปฏิรูปเรื่องใดบ้าง