พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานแถลงข่าว ประเทศไทยเซ็นสัญญาคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งการแข่งขันจะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 14 มิถุนายน -15 กรกฎาคมนี้ ที่ประเทศรัสเซีย โดยความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นจากการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างรัฐบาล นำโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และภาคองค์กรเอกชน 9 องค์กร อาทิ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) โดยจะทำการถ่ายทอดสดตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบชิงชนะเลิศ ครบทั้ง 64 แมตช์ สามารถรับชมผ่านทางช่องทรูโฟร์ยู 24 อัมรินทร์ช่อง 34 และช่อง 5 ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า จะสนุกและมีความสุขกับการรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในปีนี้ แต่ขอว่าอย่าเล่นการพนัน และยืนยันว่าไม่ได้หวังเพิ่มคะแนนเสียงให้กับรัฐบาล วอนอย่าโยงการเมือง
ด้านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี เผยว่า พีทีทีจีซี รู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนสนับสนุนการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ครบทั้ง 64 แมตช์ เชื่อว่าจะทำให้แฟนบอลชาวไทยที่รอคอยมา 4 ปี มีความสุข ทั้งนี้ พีทีทีจีซี ได้สนับสนุนฟุตบอลมาโดยตลอด โดยมีหน่วยงานส่งเสริมกีฬาฟุตบอลเยาวชน ผ่านสโมสรฟุตบอล ปตท.ระยอง ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องตลอดทั้งปีอีกด้วย
สำหรับ 32 ทีมที่ผ่านเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ได้แก่ กลุ่ม A : รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ และอุรุกวัย กลุ่ม B : โปรตุเกส สเปน โมร็อกโก อิหร่าน กลุ่ม C : ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เปรู เดนมาร์ก กลุ่ม D : อาร์เจนตินา ไอซ์แลนด์ โครเอเชีย และไนจีเรีย กลุ่ม E : บราซิล สวิตเซอร์แลนด์ คอสตาริกา และเซอร์เบีย กลุ่ม F : เยอรมนี เม็กซิโก สวีเดน และเกาหลีใต้ กลุ่ม G : เบลเยียม ปานามา ตูนิเซีย อังกฤษ และกลุ่ม H : โปแลนด์ เซเนกัล โคลอมเบีย และญี่ปุ่น
ทั้งนี้ คู่เปิดสนามเป็นการพบกันระหว่างรัสเซีย และซาอุดีอาระเบีย ที่ลุซนิกี สเตเดียม