คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงการณ์ผ่านไลน์กลุ่มสื่อมวลชนประจำดีเอสไอ โดยเนื้อหาระบุว่า ตามที่หนังสือพิมพ์ THE BANGKOK INSIGHT ได้แพร่ข่าวผ่านเว็บไซต์ของสำนักข่าว www.thebangkokinsight.com เมื่อวันที่ 19 เม.ย.61 และนำเสนอประเด็น "เบื้องหลังยุติดำเนินคดีรถหรู “บอย ยูนิตี้”เดือดจ่อยื่นฟ้องดีเอสไอ โดยเนื้อหาสรุปเป็นการนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการพิจารณากำหนดราคานำรถยนต์นั่งสำเร็จรูปเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อจำหน่ายของกลุ่ม
ทั้งนี้ ดีเอสไอยืนยันไม่มีการสั่งการให้ยุติการดำเนินคดีรถหรู การดำเนินการต้องเป็นไปตามกฎหมาย กรณีได้รับผลกระทบจากคำสั่งกรมศุลกากรที่ 317/2547 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2547 เรื่อง แนวทางการพิจารณาราคารถยนต์นั่งสำเร็จรูป โดยเนื้อหาของข่าวตอนหนึ่งได้ระบุว่า มีการเสนอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษยุติการดำเนินคดีและให้กรมศุลกากรใช้คำสั่งกรมศุลกากร ที่ 317/2547 อนุโลมให้กับผู้ประกอบการรถยนต์นั่งสำเร็จรูปทุกบริษัทถือว่าสมบูรณ์ และเป็นที่ยุติ ทั้งยังระบุอีกว่าหากกรมสอบสวนคดีพิเศษไม่คืนรถที่ยึดไว้ผู้ประกอบการบางรายจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนั้น คณะโฆษกดีเอสไอขอชี้แจงว่า ไม่ได้รับข้อสั่งการใดๆ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด ในการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ได้รับข้อสั่งการจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้ปฏิบัติตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ "ดำเนินคดีให้เกิดความเป็นธรรม ไม่เอื้อประโยชน์ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และให้ธุรกิจดำเนินการได้โดยไม่ทำผิดกฎหมาย" โดยยืนยันว่า ในการสอบสวนดำเนินคดีพิเศษเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมายทุกประการ จึงชี้แจงมาเพื่อทราบ
ทั้งนี้ ดีเอสไอยืนยันไม่มีการสั่งการให้ยุติการดำเนินคดีรถหรู การดำเนินการต้องเป็นไปตามกฎหมาย กรณีได้รับผลกระทบจากคำสั่งกรมศุลกากรที่ 317/2547 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2547 เรื่อง แนวทางการพิจารณาราคารถยนต์นั่งสำเร็จรูป โดยเนื้อหาของข่าวตอนหนึ่งได้ระบุว่า มีการเสนอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษยุติการดำเนินคดีและให้กรมศุลกากรใช้คำสั่งกรมศุลกากร ที่ 317/2547 อนุโลมให้กับผู้ประกอบการรถยนต์นั่งสำเร็จรูปทุกบริษัทถือว่าสมบูรณ์ และเป็นที่ยุติ ทั้งยังระบุอีกว่าหากกรมสอบสวนคดีพิเศษไม่คืนรถที่ยึดไว้ผู้ประกอบการบางรายจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนั้น คณะโฆษกดีเอสไอขอชี้แจงว่า ไม่ได้รับข้อสั่งการใดๆ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด ในการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ได้รับข้อสั่งการจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้ปฏิบัติตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ "ดำเนินคดีให้เกิดความเป็นธรรม ไม่เอื้อประโยชน์ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และให้ธุรกิจดำเนินการได้โดยไม่ทำผิดกฎหมาย" โดยยืนยันว่า ในการสอบสวนดำเนินคดีพิเศษเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมายทุกประการ จึงชี้แจงมาเพื่อทราบ