นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินโครงการตลาดประชารัฐทั้ง 10 ประเภท และส่งเสริม พัฒนา ต่อยอดการดำเนินโครงการตลาดประชารัฐอย่างต่อเนื่อง โดยนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติในการดำเนินโครงการตลาดประชารัฐเพิ่มเติม โดยเร่งรัดการจัดสรรพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบการ อาจกระจายไปยังตลาดที่มีพื้นที่รองรับผู้ประกอบการได้ เช่น ตลาดเคหะประชารัฐ และตลาดประชารัฐ Modern Trad เร่งรัดการจัดอบรมผู้บริหารจัดการตลาดประชารัฐ เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้บริหารจัดการในทุกด้าน ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการระดับ C ตามความเหมาะสม และเป็นไปตามความต้องการของผู้ประกอบการ ดำเนินการประเมินมาตรฐานตลาดประชารัฐตามแนวทางที่กำหนด
รวมทั้งให้มีการทดสอบสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 5 ชนิด ประกอบด้วย ฟอร์มาลิน สารกันรา สารบอแรกซ์ สารฟอกขาว และยาฆ่าแมลง ส่งเสริมตลาดประชารัฐด้านการท่องเที่ยว โดยเร่งรวบรวมและจัดส่งข้อมูลตลาดประชารัฐที่มีศักยภาพให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อบรรจุในปฏิทิน "ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน"
พร้อมกันนี้ ให้ประสานความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสาขาในพื้นที่ จัดทำเส้นทางการท่องเที่ยวของจังหวัดให้เชื่อมโยงกับตลาดประชารัฐ และ OTOP Tourism Village ซึ่งปัจจุบันมีจังหวัดและหน่วยงานกำกับดูแลตลาดได้คัดเลือกตลาดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวแล้วจำนวน 144 แห่งจาก 67 จังหวัด เน้นย้ำให้ CMO ดำเนินการสำรวจติดตามผลประกอบการและความพึงพอใจของผู้ขาย และสอบถามความคิดเห็นของผู้ซื้อผ่านระบบออนไลน์ เพื่อประเมินผลความสำเร็จ สำรวจตลาดประชารัฐและตลาดเอกชนที่ดำเนินการอยู่ในพื้นที่ ให้มีการบริหารจัดการตลาดอย่างเหมาะสม และจัดทำข้อมูลข่าวสารกิจกรรมภายใต้โครงการตลาดประชารัฐ
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยมีความตั้งใจในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพให้ผู้ค้า และผู้ประกอบการตลาดประชารัฐ ได้รับการต่อยอดทางด้านการค้าขาย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ต้องการของตลาด พร้อมเน้นย้ำทุกหน่วยงานภาคีร่วมบูรณาการดำเนินการขับเคลื่อนโครงการตลาดประชารัฐ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ตลาดประชารัฐเป็นตลาดแห่งโอกาส ตลาดแห่งอาชีพ และสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการอย่างยั่งยืนต่อไป