วันนี้ (10 เม.ย.) พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ในฐานะเลขานุการรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านการประมง นัดตัวเแทนชาวประมงอวนล้อม 22 จังหวัด และตัวแทนฝ่ายรัฐ ประกอบด้วย กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมการจัดหางาน และ ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) เข้าเจรจา หลังจากเมื่อวานนี้ เรือประมงอวนล้อมครอบปลากระตักกว่า 300 ลำ นำเรือเข้าจอดตามมติชมรมเรืออวนล้อมที่นัดหยุดเรือพร้อมกันทั่วประเทศ หลังจากยังไม่มีความคืบหน้าจากการยื่นข้อเสนอของชมรมเรือประมงอวนล้อมสตูล-ตรัง 5 ข้อไปยัง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลเมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา ที่ให้ทบทวนประกาศที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวประมงที่ต้องสุ่มเสี่ยงในการทำผิดกฎหมาย ขอให้ชาวประมงมีส่วนร่วมในการทบทวนประกาศที่สร้างเงื่อนไขขัดกับวิถีประมงและบั่นทอนความมั่นคงในกิจการประมงไทยที่สืบทอดมายาวนานจากบรรพบุรุษ โดยขอให้ตรวจสอบประกาศที่ออกโดยมิชอบ ขอให้หยุดการออกประกาศใหม่ในระหว่างการทบทวนประกาศและขอให้ช่วยเหลือเรื่องการขาดแคลนแรงงานในกิจการประมงทางทะเล โดยกลุ่มชาวประมง ทั้งผู้ประกอบการและแรงงาน
นายภูเบศ จันทนิมิ นายกสมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี ระบุว่า การประกาศของทางหน่วยงานรัฐบางประกาศ ชาวประมงพร้อมปฏิบัติตามและทุกคนพยายามแก้ปัญหา ไอยูยู ร่วมกับภาครัฐ มาตั้งแต่ปี2558 ไม่เคยปฏิเสธความร่วมมือในทุกเรื่อง แต่วันนี้ ทางกลุ่มประมง เกิดความยุ่งยากและลำบากในการทำกิจการ จึงอยากให้ทุกหน่วยงานร่วมกันหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบกับกลุ่มประมง และภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเฉพาะความยุ่งยาก จากการให้ผู้ประกอบการประมงต้องเก็บสลิปที่ลูกจ้างถอนเงินแล้วนำมาถ่ายเอกสารนำไปแจ้งต่อศูนย์แจ้งเข้าออก หรือ ปีโป้ ซึ่งสร้างความลำบากมาก ในส่วนของกรมเจ้าท่าที่ออกประกาศให้เรือประมงต้องซื้ออุปกรณ์ เช่น เชือก ถังดับเพลิง เสื้อชูชีพ จากบริษัทหรือร้านค้า ที่กรมเจ้าท่ารับรอง กลุ่มชาวประมงมองว่ามันแพงกว่าร้านค้าทั่วไปถึง 3- 4 เท่า สร้างภาระด้านต้นทุนให้ผู้ประกอบการ จึงขอว่าไม่ควรมากำหนดบริษัทที่กรมเจ้าท่ารับรองเท่านั้น ควรให้ ผู้ประกอบการสมารถซื้อหาได้โดยอิสระ ขณะเดียกันฝากถึงกรมแรงงาน ให้ช่วยเหลือการจัดหาแรงงานประมงในรูปแบบที่ทำตามระเบียบของกรมจัดหางานเพราะปัจจุบันขาดแคลนแรงงานประมงอย่างมาก
ด้านตัวแทนจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ชี้แจงเรื่องการถ่ายสลิปเงินเดือนว่า อาจเป็นความเข้าใจผิดของ ผอ.ศูนย์บางแห่ง เพราะยืนยันว่า กรมสวัสดิการและคุ้มรงครองแรงงานไม่เคยสั่งการในเรื่องนี้ ซึ่งคิดว่าหลังจากวันนี้ที่อธิบายทำความเข้าใจแล้ว ปัญหาความเข้าใจผิดเรื่องนี้น่าจะคลี่คลาย ส่วนการเข้าถึงเอกสาร สัญญาจ้างของแรงงานที่กลุ่มประมงกังวัลว่า อาจจะเกิดการสูญหายและต้องเสียเวลาในการดำเนินใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการออกเดินเรือ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ออกประกาศให้ลูกจ้างสามารถฝากเอกสารไว้กับนายจ้างได้แล้วเป็นรายบุคคล ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ต้องกลัวการสูญหาญ เช่ยเดียวกับใบอนุญาตเดินเรือ ที่นายจ้างสามารถถือเป็นสำเนาได้ เพื่อป้องกันเอกสารตัวจริง เสียหายจากการออกทำการประมง จึงขอให้กลุ่มประมง สบายใจได้ในเรื่องนี้
นายภูเบศ จันทนิมิ นายกสมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี ระบุว่า การประกาศของทางหน่วยงานรัฐบางประกาศ ชาวประมงพร้อมปฏิบัติตามและทุกคนพยายามแก้ปัญหา ไอยูยู ร่วมกับภาครัฐ มาตั้งแต่ปี2558 ไม่เคยปฏิเสธความร่วมมือในทุกเรื่อง แต่วันนี้ ทางกลุ่มประมง เกิดความยุ่งยากและลำบากในการทำกิจการ จึงอยากให้ทุกหน่วยงานร่วมกันหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบกับกลุ่มประมง และภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเฉพาะความยุ่งยาก จากการให้ผู้ประกอบการประมงต้องเก็บสลิปที่ลูกจ้างถอนเงินแล้วนำมาถ่ายเอกสารนำไปแจ้งต่อศูนย์แจ้งเข้าออก หรือ ปีโป้ ซึ่งสร้างความลำบากมาก ในส่วนของกรมเจ้าท่าที่ออกประกาศให้เรือประมงต้องซื้ออุปกรณ์ เช่น เชือก ถังดับเพลิง เสื้อชูชีพ จากบริษัทหรือร้านค้า ที่กรมเจ้าท่ารับรอง กลุ่มชาวประมงมองว่ามันแพงกว่าร้านค้าทั่วไปถึง 3- 4 เท่า สร้างภาระด้านต้นทุนให้ผู้ประกอบการ จึงขอว่าไม่ควรมากำหนดบริษัทที่กรมเจ้าท่ารับรองเท่านั้น ควรให้ ผู้ประกอบการสมารถซื้อหาได้โดยอิสระ ขณะเดียกันฝากถึงกรมแรงงาน ให้ช่วยเหลือการจัดหาแรงงานประมงในรูปแบบที่ทำตามระเบียบของกรมจัดหางานเพราะปัจจุบันขาดแคลนแรงงานประมงอย่างมาก
ด้านตัวแทนจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ชี้แจงเรื่องการถ่ายสลิปเงินเดือนว่า อาจเป็นความเข้าใจผิดของ ผอ.ศูนย์บางแห่ง เพราะยืนยันว่า กรมสวัสดิการและคุ้มรงครองแรงงานไม่เคยสั่งการในเรื่องนี้ ซึ่งคิดว่าหลังจากวันนี้ที่อธิบายทำความเข้าใจแล้ว ปัญหาความเข้าใจผิดเรื่องนี้น่าจะคลี่คลาย ส่วนการเข้าถึงเอกสาร สัญญาจ้างของแรงงานที่กลุ่มประมงกังวัลว่า อาจจะเกิดการสูญหายและต้องเสียเวลาในการดำเนินใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการออกเดินเรือ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ออกประกาศให้ลูกจ้างสามารถฝากเอกสารไว้กับนายจ้างได้แล้วเป็นรายบุคคล ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ต้องกลัวการสูญหาญ เช่ยเดียวกับใบอนุญาตเดินเรือ ที่นายจ้างสามารถถือเป็นสำเนาได้ เพื่อป้องกันเอกสารตัวจริง เสียหายจากการออกทำการประมง จึงขอให้กลุ่มประมง สบายใจได้ในเรื่องนี้