นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยทั่วประเทศ เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำต่อเนื่อง เพราะปริมาณไข่ไก่ล้นตลาด ต้องการให้กรมปศุสัตว์เร่งตรวจสอบ ลดจำนวนการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ ปลดแม่ไก่ยืนกรงของบริษัทรายใหญ่ และลดการนำเข้าจาก 6 แสนตัวต่อปี ให้เหลือ 3-4 แสนตัวต่อปี โดยระบุว่า ในฐานะที่กรมปศุสัตว์เป็นเลขานุการคณะกรรมการพัฒนานโยบายไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) ได้จัดประชุมคณะกรรมการฯ ไปเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560 หลังจากนั้นกรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการตามโครงการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ปี 2561 โดยจัดประชุมผู้ประกอบการบริษัทรายใหญ่ 16 บริษัท (นำเข้าและเลี้ยงปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่จำนวน 1 ราย นำเข้าและเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่จำนวน 16 ราย) รวม 7 ครั้ง เพื่อแก้ปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำต่อเนื่อง โดยระยะสั้นกำหนดให้บริษัทและฟาร์มรายใหญ่ปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงอายุไม่เกิน 72 สัปดาห์ ไปแล้วจำนวน 811,059 ตัว เพื่อลดปริมาณผลผลิตไข่ไก่ลง
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ปศุสัตว์เขตร่วมกับปศุสัตว์จังหวัดจัดชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ของทั้ง 16 บริษัทรายใหญ่ พบว่ามีปริมาณที่เหมาะสมสอดคล้องกับมติคณะกรรมการพัฒนานโยบายไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ โดยในปีนี้ กรมปศุสัตว์ตกลงกับบริษัทรายใหญ่ให้ลดการนำเข้าและเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ไม่เกิน 550,000 ตัว ซึ่งกรมปศุสัตว์จะติดตามตรวจสอบอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง รวมถึงสั่งการให้ปศุสัตว์จังหวัดเร่งสำรวจฟาร์มไก่ไข่ที่มีขนาดการเลี้ยงตั้งแต่ 10,000 ตัวขึ้นไป เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนจัดการผลผลิตไข่ไก่ ทั้งนี้ คาดว่าราคาไข่จะปรับสูงขึ้นช่วงกลางเดือนเมษายนนี้