นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้จัดกิจกรรมสรงน้ำพระบรมธาตุ และเทพนพเคราะห์ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2561 เพื่อเริ่มต้นปีใหม่ไทยด้วยความเป็นสิริมงคลตามแบบแผนประเพณีที่ดีงาม โดยอัญเชิญพระธาตุประดิษฐานในพระกรัณฑ์ (พบในพระกรัณฑ์ก้านพระรัศมีพระพุทธสิหิงค์) และเทวดานพเคราะห์ 9 องค์ มาให้ประชาชนได้สรงน้ำและกราบไหว้บูชาขอพร
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า แต่ละคนเมื่อเกิดมาจะมีเทวดานพเคราะห์ประจำวันเกิด และในแต่ละช่วงชีวิตเทวดานพเคราะห์จะหมุนเวียนเข้าเสวยอายุ กำหนดปีการเสวยอายุตามกำลังของเทวดาแต่ละองค์ ซึ่งจะส่งผลร้ายหรือดีต่อมนุษย์ขึ้นอยู่กับประเภทของเทวดานพเคราะห์ว่า เป็นฝ่ายบาปเคราะห์หรือศุภเคราะห์ หรือความเข้ากันได้หรือไม่กับเทวดาประจำวันเกิด
สำหรับเทพนพเคราะห์มีต้นกำเนิดมาจากโหราศาสตร์ฮินดูที่นับถือพระสุริยเทพ (พระอาทิตย์) ซึ่งมีเทพบริวารอีก 8 องค์ รวมเป็น 9 องค์ ถือว่าเป็นเทพที่ปกปักรักษาชีวิตของประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย ประกอบด้วย พระอาทิตย์ ทรงราชสีห์ เป็นเทพนพเคราะห์ที่มีอำนาจเหนือกว่าเทพนพเคราะห์ทั้งปวง พระจันทร์ ทรงม้า พระอังคาร ทรงมหิงสา พระพุธ ทรงคชสารพระพฤหัสบดี ทรงกวาง พระศุกร์ ทรงโค พระเสาร์ ทรงพยัคฆ์ พระราหู ทรงพญาครุฑ และพระเกตุ ทรงนาค ซึ่งประติมากรรมเทพนพเคราะห์ชุดนี้หล่อขึ้นตามแบบเทพนพเคราะห์ของไทย มีลักษณะการแต่งกายคล้ายคลึงกับภาพเทวรูปในสมุดไทยหมวดตำราภาพเทวรูปไสยาศาสตร์ เล่มที่ 70 สำนักหอสมุดแห่งชาติ ที่สันนิษฐานว่าเป็นรูปแบบของเจ้าฟ้าอิศราพงศ์ และคล้ายคลึงกับภาพจิตรกรรมเทพบนบานประตูหน้าต่างด้านในของพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) ที่เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ทรงร่วมในการควบคุมการก่อสร้างเช่นกัน
ทั้งนี้ ในวันที่ 12 เมษายน เวลา 09.09 น. กรมศิลปากรกำหนดการจัดพิธีบวงสรวงสมโภช ศาลาสำราญมุขมาตย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และได้จัดนิทรรศการพิเศษเรื่อง "เทพนพเคราะห์" เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาและหลักการบูชาเทวดาที่เสวยอายุตามหลักโหราศาสตร์ ขอเชิญร่วมสรงน้ำพระและชมนิทรรศการ ณ ศาลาสำราญมุขมาตย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันที่ 12-14 เมษายน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.