นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยความคืบหน้าในการบูรณะกลีบบัวทองคำ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ว่า เจ้าหน้าที่ถอดกลีบบัวทองคำ จำนวน 60 ชิ้น และสายรัดกลีบบัว 54 ชิ้น ลงจากยอดพระบรมธาตุเจดีย์ น้ำหนักทองจากการชั่งประมาณ 18 กิโลกรัม โดยภายในเดือนเมษายนนี้ จะขนย้ายกลีบบัวทองคำทั้งหมดไปยังสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร จังหวัดนครปฐม โดยจะนำทองคำที่จังหวัดซื้อฝากธนาคารไว้ 14 กิโลกรัม และทองคำที่นายจิมมี่ ชวาลา บริจาคเงินผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ อีกประมาณ 29 ล้านบาท หรือคิดเป็นน้ำหนักทองคำประมาณ 21 กิโลกรัม มาหลอมรวมเป็นทองคำรีดแผ่น 53 กิโลกรัม จากนั้นจะนำกลับมาขึ้นรูปเป็นกลีบบัวและสายรัดมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องความมั่นคงภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเช่นเดิม
ด้าน นายอาณัติ บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า แผ่นทองที่รีดเพื่อทำกลีบบัวทองคำ มีขนาดใหญ่ 18 นิ้ว ก่อนตัดขอบแล้วเหลือ 16 นิ้ว หนาประมาณ 0.5 มิลลิเมตร เชื่อว่าเมื่อนำมาขึ้นเป็นรูปกลีบบัวจะมีความแข็งแรงเพราะหนากว่าของเดิม ซึ่งกลีบบัวแต่ละกลีบจะใช้ทองคำ 1 แผ่น โดยไม่ต้องนำมาต่อกันหลายชิ้นเหมือนของเดิม จากนั้นในช่วงเดือนกรกฎาคม จะประกอบติดตั้งกลีบบัวทองคำ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2561 หลังจากนั้นจะได้หารือกำหนดช่วงเวลาเพื่อสมโภชพระบรมธาตุเจดีย์ต่อไป
ด้าน นายอาณัติ บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า แผ่นทองที่รีดเพื่อทำกลีบบัวทองคำ มีขนาดใหญ่ 18 นิ้ว ก่อนตัดขอบแล้วเหลือ 16 นิ้ว หนาประมาณ 0.5 มิลลิเมตร เชื่อว่าเมื่อนำมาขึ้นเป็นรูปกลีบบัวจะมีความแข็งแรงเพราะหนากว่าของเดิม ซึ่งกลีบบัวแต่ละกลีบจะใช้ทองคำ 1 แผ่น โดยไม่ต้องนำมาต่อกันหลายชิ้นเหมือนของเดิม จากนั้นในช่วงเดือนกรกฎาคม จะประกอบติดตั้งกลีบบัวทองคำ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2561 หลังจากนั้นจะได้หารือกำหนดช่วงเวลาเพื่อสมโภชพระบรมธาตุเจดีย์ต่อไป