วันนี้ (28 มี.ค.) นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในงาน "ไก่แช่แข็งไทยไปยูนนาน" โดยมีพิธีปล่อยตู้คอนเทนเนอร์บรรจุผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกล็อตแรก ไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ด่านท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน (ท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2) จ.เชียงราย
นายนิวัติ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายสนับสนุนการส่งออกสินค้าปศุสัตว์และเร่งผลักดันการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ไปยังตลาดแห่งใหม่ กรมปศุสัตว์จึงเชิญคณะเจ้าหน้าที่จากจีนมาไทย เพื่อตรวจสอบระบบการกำกับดูแลผลิตเนื้อสัตว์ปีกของไทย และตรวจสอบโรงงานเชือดสัตว์ปีกเพื่อการส่งออก จำนวน 19 แห่ง เมื่อวันที่ 3 - 11 กรกฎาคม 2560 ซึ่งหลังการตรวจสอบเสร็จ ฝ่ายจีนมีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก จนนำไปสู่การร่วมจัดทำพิธีสารว่าด้วยเงื่อนไขหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การกักกัน และสุขอนามัยในการนำเข้าไก่แช่แข็งและชิ้นส่วนไก่จากราชอาณาจักรไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างสำนักงานกำกับการควบคุมคุณภาพ ตรวจสอบ และกักกันแห่งชาติ (AQSIQ) ของจีน และกรมปศุสัตว์ของไทย
ทั้งนี้ การส่งออกจะผ่านที่ด่านท่าเรือเมืองกวนเหล่ย มณฑลยูนนาน มีเป้าหมายส่งสินค้าสู่จีนตอนใต้เป็นหลัก ซึ่งการที่ไทยสามารถส่งไก่ได้ในครั้งนี้จะทำให้ราคาไก่สูงขึ้น เพราะจีนเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าของไทย โดยการปล่อยตู้คอนเทนเนอร์ในครั้งนี้เป็นล็อตแรกจำนวน 14 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่า 35 ล้านบาท และจะมีการส่งออกอย่างต่อเนื่องต่อไป
ทางด้านนายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า จากการที่จีนมาตรวจสอบระบบการกำกับดูแลผลิตเนื้อสัตว์ปีกของไทย และตรวจสอบโรงงานเชือดสัตว์ปีกเพื่อการส่งออกของไทย สำนักงานการขึ้นทะเบียนหรือรับรองแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (CNCA) จึงประกาศรับรองให้โรงงานผลิตและแปรรูปเนื้อไก่ของไทย จำนวน 7 โรงงาน สามารถส่งออกเนื้อไก่ไปสู่ผู้บริโภคชาวจีนได้ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพ มีความต้องการบริโภคเนื้อไก่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการบริโภคสินค้าที่เป็น By Product อาทิ เครื่องในและเท้าไก่ ทำให้กรมปศุสัตว์ประเมินว่า การส่งออกของทั้ง 7 โรงงาน จะสร้างรายได้เข้าประเทศประมาณ 7,000 ล้านบาทต่อปี แต่หากจีนรับรองโรงงานครบทั้ง 19 แห่ง ที่ได้เข้ามาตรวจสอบ จะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งภาคอุตสาหกรรมไก่ของไทยมีความพร้อมอย่างมากในการส่งออกเนื้อไก่ไปทั้งตลาดจีนและตลาดอื่น ๆ ของโลก