นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลดนายสมชัย ศรีสุทธิยากร พ้นตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า การใช้อำนาจตามมาตรา 44 กับบุคคลในองค์กรอิสระ ต้องใช้อย่างระมัดระวังและพิจารณาเป็นพิเศษ เพราะการใช้อำนาจกับองค์กรอิสระจะก่อให้เกิดผลสะเทือนตามมากับการทำงานขององค์กรอิสระหลายประการ โดยในประเด็นการปลดนายสมชัย นั้น มีข้อควรพิจารณาว่า การปลดโดยอ้างเหตุผลเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ทำให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ถือเป็นการใช้อำนาจเกินสมควร เพราะการให้สัมภาษณ์ของบุคคลคนเดียวไม่อาจสร้างความสับสนได้ แต่ความสับสนเกี่ยวกับการเลือกตั้งเกิดจากการเลื่อนโรดแมป และแม่น้ำห้าสายที่มีการเล่นแร่แปรธาตุจนก่อให้เกิดความไม่แน่นอน หากนายกรัฐมนตรีแสดงความจริงใจกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน ก็จะไม่เกิดความสับสนเหมือนอย่างที่ผ่านมา
นายองอาจ กล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นกับการทำหน้าที่ของ กกต.ในอนาคต เพราะจะเกิดความวิตกกังวลว่า กกต.จะทำหน้าที่ได้อย่างสุจริต เที่ยงธรรมหรือไม่ โดย กกต.ที่เหลืออยู่ หรือ กกต.ที่จะเข้ามาใหม่ต้องทำงานสนอง คสช.เพื่อไม่ให้พ้นจากตำแหน่ง ส่งผลกระทบต่อกความเชื่อมั่นในการทำงานขององค์กรอิสระว่าจะทำหน้าที่โดยไม่ถูกแทรกแซงจากผู้มีอำนาจ