นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ขอให้ผู้ประกอบการไทยทำการศึกษาแนวปฏิบัติด้านศุลกากรและภาษีสรรพสามิตที่กระทรวงกิจการภาษีและสหภาพศุลกากรของสหภาพยุโรปได้ออกประกาศ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกรณีอังกฤษจะต้องออกจากการเป็นสมาชิกอียู หรือ Brexit ในวันที่ 30 มีนาคม 2562 โดยกระทรวงกิจการภาษีและสหภาพศุลกากรของสหภาพยุโรป ได้ออกประกาศแนวปฏิบัติโดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับสถานะของอังกฤษที่จะเปลี่ยนเป็นประเทศที่ 3 ซึ่งจะส่งผลต่อวิธีการปฏิบัติด้านเอกสารและพิธีการศุลกากรนำเข้าและส่งออกระหว่างอียูกับอังกฤษ อาทิ เมื่ออังกฤษออกจากอียูจะต้องมีใบอนุญาตนำเข้า-ส่งออกของอียูเช่นเดียวกับประเทศที่สามอื่น ผู้ประกอบการที่เคยได้รับอนุมัติเป็น AEO โดยอังกฤษจะไม่สามารถใช้เขตศุลกากรสหภาพยุโรปอีกต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบธุรกิจควรทราบเพื่อเตรียมปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานให้สอดรับกับสถานะใหม่ของอังกฤษต่อสหภาพยุโรป โดยคาดว่าประกาศดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับวันที่ 30 มีนาคม 2562 แต่หากอียูและอังกฤษสามารถตกลงกันได้ก็อาจจะเลื่อนออกไปใช้บังคับเดือนมกราคม 2564 ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงควรติดตามและศึกษาแนวทางปฏิบัติภายหลังสหราชอาณาจักรออกจากอียู (BREXIT) เพื่อเตรียมความพร้อมและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ อังกฤษเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 2 ของไทยในกลุ่มสมาชิกสหภาพยุโรป โดยมีมูลค่าการค้าไทย-อังกฤษ ประมาณ 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ