xs
xsm
sm
md
lg

DSI เตรียมสรุป 2 สำนวนคดีค้ามนุษย์วิคตอเรีย ซีเครท ส่งอัยการสิ้นเดือนนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนคดีค้ามนุษย์วิคตอเรีย ซีเครท ว่า ตนได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ ผู้อำนวยการกองคดีต่อต้านการค้ามนุษย์ ภายหลังการสอบปากคำพยาน ตรวจสอบหลักฐาน และเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องหลังรับโอนคดีจาก สน.วังทองหลาง ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างประชุมร่วมกับพนักงานอัยการเพื่อสรุปสำนวนการสอบสวนก่อนที่จะครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหา 84 วัน ในส่วนของดีเอสไอมีกำหนดส่งสำนวนให้อัยการก่อนสิ้นเดือนมีนาคมนี้ โดยจะแยกเป็น 2 สำนวนคดี คือ คดีนำเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี มาค้าประเวณี ตามหมายจับเดิมที่มี นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ อายุ 61 ปี เจ้าของสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท และนายบุญทรัพย์ หรือ ป๋ากบ อมรรัตนสิริ อายุ 55 ปี หัวหน้าเชียร์แขก กับพวกรวม 7 ราย เป็นผู้ต้องหา

ส่วนคดีที่ 2 เป็นความผิดที่เกิดขึ้นขณะนำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมในวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีนายกำพล และนายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย อายุ 67 ปี กับพวกรวม 6 ราย เป็นผู้ต้องหา



ด้าน พ.ต.ท.สุภัทธ์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนเตรียมสรุปสำนวนคดีค้ามนุษย์วิคตอเรีย ซีเครท 2 สำนวน ส่งให้อัยการก่อนสิ้นเดือนมีนาคมนี้ เพื่อให้อัยการมีเวลาพิจารณา เนื่องจากคดีจะครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาครั้งสุดท้ายในวันที่ 5 เมษายนนี้ ซึ่งจำเป็นต้องฟ้องให้ทันภายในกำหนด โดยสำนวนแรกดีเอสไอมีความเห็นดำเนินคดี ร่วมกันค้ามนุษย์โดยการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหาซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง ร่วมกันเป็นเจ้าของกิจการค้าประเวณี รู้เห็นการมาของคนต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติกับผู้ต้องหา 7 รายแรกตามหมายจับเดิม 

และสำนวนที่ 2 ดำเนินคดีข้อหาเป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณีและ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 กับผู้ต้องหาอีก 6 ราย

ขณะที่ยังมีผู้ต้องหาบางรายซึ่งเป็นกลุ่มเอเยนต์นำเด็กและนำผู้หญิงจากประเทศต้นทางเข้ามาขายบริการจะถูกดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติม โดยการสอบสวนพบกลุ่มเอเยนต์กับนายกำพล มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ดังนั้น ผู้ประกอบการจะปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่รู้เห็นกับการสั่งเด็กและหญิงต่างด้าวเข้ามาทำงานบริการ นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานการลงบัญชีหักค่าตัวเด็กจ่ายให้กับสถานประกอบการ คนเชียร์แขก และเอเยนต์ อาทิ ค่าบริการ 2 พันบาท เด็กจะต้องหักส่วนต่างครึ่งหนึ่งให้สถานประกอบการ ส่วนที่เหลือยังถูกหักเป็นค่าแต่งหน้า ค่าตรวจร่างกายและเงินปันส่วนให้กับเอเย่นต์



อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าหญิงสาวไม่ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อการสอบสวน เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการทุบหม้อข้าวตัวเอง เพราะคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ทราบว่าเข้ามาประกอบอาชีพอะไร และสมัครใจเดินทางเข้ามาทำงานเอง แต่กรณีที่เป็นเด็กถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายที่รุนแรงและเข้าข่ายการค้ามนุษย์ ส่วนคดีฟอกเงินพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณา โดยตรวจสอบว่าเงินของนายกำพล กระจายไปที่ใดบ้าง เพื่อเรียกให้ผู้รับเงินเข้าชี้แจงธุรกรรมการเงิน โดยคดีฟอกเงินจะเห็นความชัดเจนภายหลังการสรุปสำนวนสั่งฟ้องคดีค้ามนุษย์และค้าประเวณี ซึ่งเป็นสำนวนความผิดหลัก


กำลังโหลดความคิดเห็น