นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยม และมอบนโยบาย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ว่า ได้ติดตามการแก้ไขปัญหาความแออัดของสนามบิน อาทิ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต โดยการแก้ไขปัญหาระยะสั้นของสนามบินสุวรรณภูมินั้น จะต้องให้เห็นผลภายใน 3-4 เดือน และจะต้องไม่ทำให้ผู้โดยสารได้รับผลกระทบจากการเดินทางด้วย
ขณะที่แผนการแก้ไขปัญหาระยะยาว จะเร่งดำเนินการลงทุนก่อสร้างสนามบินเฟส 2 ภายในปี 2564 เพื่อรองรับจำนวนคนที่เดินทางเข้าออกสนามบินสุวรรณภูมิให้ได้ถึง 90 ล้านคน จากปัจจุบันที่รองรับได้ 60 ล้านคน
สำหรับสนามบินเชียงใหม่ที่มีความแออัดของพื้นที่อาคารจอดรถนั้น ได้มีการพิจารณาให้ก่อสร้างสนามบินแห่งที่ 2 โดยอยู่ในระหว่างการจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อรองรับผู้โดยสารที่มีมากขึ้น
ส่วนสนามบินภูเก็ตที่จะต้องมีการขยายรันเวย์ จากเดิมที่มีเพียงรันเวย์เดียว
ทั้งนี้ การพัฒนาสนามบินทั้งหมดนั้น เพื่อรองรับการขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศกว่าปีละ 30 ล้านคน และมีแผนที่จะดึงการท่องเที่ยวไปยังจังหวัดอื่นๆ มากขึ้น
ขณะที่แผนการแก้ไขปัญหาระยะยาว จะเร่งดำเนินการลงทุนก่อสร้างสนามบินเฟส 2 ภายในปี 2564 เพื่อรองรับจำนวนคนที่เดินทางเข้าออกสนามบินสุวรรณภูมิให้ได้ถึง 90 ล้านคน จากปัจจุบันที่รองรับได้ 60 ล้านคน
สำหรับสนามบินเชียงใหม่ที่มีความแออัดของพื้นที่อาคารจอดรถนั้น ได้มีการพิจารณาให้ก่อสร้างสนามบินแห่งที่ 2 โดยอยู่ในระหว่างการจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อรองรับผู้โดยสารที่มีมากขึ้น
ส่วนสนามบินภูเก็ตที่จะต้องมีการขยายรันเวย์ จากเดิมที่มีเพียงรันเวย์เดียว
ทั้งนี้ การพัฒนาสนามบินทั้งหมดนั้น เพื่อรองรับการขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศกว่าปีละ 30 ล้านคน และมีแผนที่จะดึงการท่องเที่ยวไปยังจังหวัดอื่นๆ มากขึ้น