xs
xsm
sm
md
lg

รวงข้าวแนะไทยหาตลาดใหม่กระจายความเสี่ยงรับมือสหรัฐฯ ขึ้นภาษีเหล็ก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า มาตรการกีดกันทางการค้าล่าสุดที่สหรัฐฯ เตรียมประกาศออกมา โดยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กร้อยละ 25 และะอลูมิเนียมร้อยละ 10 ส่งผลกระทบทางตรงต่อไทยจำกัดอยู่ในกลุ่มวัสดุก่อสร้างและผลิตภัณฑ์เหล็กแปรรูปขั้นต้น เช่น ท่อเหล็ก แผ่นเหล็ก ลวดเหล็ก แผ่นอะลูมิเนียม ส่วนผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ใช้เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างของใช้ในครัวเรือน ไม่น่าอยู่ในขอบข่ายการเก็บภาษีนำเข้า

ขณะที่ผลกระทบทางอ้อมหากการนำเข้าของสหรัฐฯ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้สินค้ากลุ่มดังกล่าวล้นตลาด ส่งผลต่อเนื่องมายังราคาสินค้าปรับตัวลดลง อานิสงส์ต่อการนำเข้าวัตถุดิบต้นน้ำและกลางน้ำเพื่อผลิตสินค้าขั้นปลายน้ำของไทยได้ประโยชน์ แต่สำหรับสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมขั้นกลางที่มีราคาต่ำลงอาจกลายเป็นคู่แข่งการส่งออกของไทย  ซึ่งผู้ประกอบการไทยอาจถูกสินค้าจากแคนาดา เกาหลีใต้ และจีนเข้ามาชิงพื้นที่ตลาดของไทยที่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ไทยพึ่งพาการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากต่างประเทศมีมูลค่าประมาณ 20.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 9.4 ของการนำเข้าสินค้าทั้งหมดของไทยในปี 2560



นอกจากนี้ ในระยะข้างหน้าสหรัฐฯ อาจใช้มาตรการเดียวกันนี้กับสินค้ากุ้งแช่แข็งและปลาแช่แข็ง ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อธุรกิจไทยมากขึ้นกว่าการที่สหรัฐฯ ใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (AD/CVD) กับไทยและเวียดนามอยู่ในเวลานี้ ดังนั้น ธุรกิจไทยที่มีสหรัฐฯ เป็นตลาดเป้าหมาย ควรมีแผนกระจายความเสี่ยงโดยแสวงหาตลาดใหม่อย่างจริงจัง เพราะมาตรการที่สหรัฐฯ นำมาใช้ในขณะนี้นับว่าเป็นการกีดกันทางการค้าอย่างครอบคลุมรอบด้าน เป็นการยากที่จะพึ่งพาการส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพียงตลาดเดียว

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามมาตรการตอบโต้ทางการค้าของนานาประเทศที่มีต่อสหรัฐฯ ทั้งจากแคนาดา เกาหลีใต้ ยุโรปและจีน ซึ่งอาจส่งผลบิดเบือนการค้าโลกและอาจส่งผลต่อไทยในหลายแง่มุม เพราะอาจเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของธุรกิจไทยในระยะข้างหน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น