นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการด่วนที่สุดมอบหมายปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอธิบดีทุกกรมในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบแนวโน้มการปลูกข้าวนาปรังปี 2560/2561 เนื่องจากได้รับรายงานข้อมูลจากผู้นำหมู่บ้านและชุมชนบางแห่งในพื้นที่ภาคกลางว่าปี 2560 ข้าวมีราคาดีกว่าปีก่อน ๆ ประกอบกับมีปริมาณน้ำท่ามากขึ้นกว่าปีก่อนเช่นกัน ทำให้ชาวนามีแนวโน้มจะหันมาทำนานอกฤดู หรือนาปรังมากขึ้นกว่าเป้าหมายที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พยายามจำกัดการทำนาปรังปี 2560/2561 ให้อยู่ในพื้นที่ไม่เกิน 8 ล้านไร่ โดยได้มีการรณรงค์ให้ชาวนาเข้าร่วมโครงการปลูกพืชหลากหลายของกรมส่งเสริมการเกษตร การปลูกพืชปุ๋ยสดของกรมพัฒนาที่ดิน และปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยกรมปศุสัตว์ ทดแทนการทำนานาปรังภายในเงื่อนไขที่ชาวนาจะได้รับเงินค่าปัจจัยการปลูกพืชดังกล่าวเฉลี่ยไร่ละประมาณ 1,000 – 2,000 บาท นั้น
ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแนวโน้มการทำนานอกฤดูดังกล่าว และเป็นการเตรียมการแก้ไขปัญหาผลผลิตข้าวให้ทันต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ในอนาคตที่อาจเกิดขึ้น จึงได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอธิบดีที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
1.สั่งการให้จังหวัดพื้นที่ปลูกข้าวเรียกประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพื่อมอบหมายให้สำนักงานเกษตรจังหวัด/อำเภอตลอดจนเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ ในพื้นที่ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าชาวนามีแนวโน้มจะทำนานอกฤดูมากน้อยจำนวนเท่าไรเพียงใด
2.ขอให้ตรวจสอบว่าชาวนาที่เข้าร่วมโครงการปลูกพืชอื่น ๆ แทนการทำนานอกฤดู และรับค่าชดเชยหรือค่าปัจจัยการผลิตไปแล้วทำตามสัญญาหรือไม่ หากไม่ปฎิบัติตามสัญญาให้ระงับการจ่ายค่าชดเชยดังกล่าวไว้ด้วย
3.เร่งรัดและเพิ่มความเข้มข้นการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการงดการทำนานอกฤดูให้กว้างขวาง ทั้งนี้ ให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเข้าพบรายงานสถานการณ์การทำนานอกฤดูให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบทุกระยะ พร้อมทั้งประสานงานกับปลัดจังหวัด เพื่อขอความร่วมมือให้นายอำเภอและกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่เกษตรในพื้นที่ หรือ ศพก.ในการระดมกำลังแก้ไขปัญหาการทำนานอกฤดูด้วย
4.มาตรการอื่น ๆ ที่คณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเห็นว่าเหมาะสมกับพื้นที่
5.ในส่วนกลางขอให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ และผู้ตรวจราชการกรมทุกกรมได้ไปตรวจราชการพร้อมทั้งติดตามสถานการณ์การทำนานอกฤดูแต่ละจังหวัดแล้วรายงานกระทรวงทุกระยะ เพื่อประเมินสถานการณ์ และเตรียมการแก้ไขปัญหาผลผลิตข้าวนอกฤดูไว้ด้วย
6. ให้คณะกรรมการพัฒนาการเกษตรฯ จังหวัดประสานพาณิชย์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัดและบริษัทประชารัฐรวมทั้งภาคเอกชนถึงความต้องการผลผลิตพืชหลังนา แล้วแจ้งข้อมูลดังกล่าวแก่เกษตรจังหวัด/อำเภอ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ชาวนาว่าเมื่อผลผลิตพืชหลังนาออกมาจะมีตลาดรับซื้อ
ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแนวโน้มการทำนานอกฤดูดังกล่าว และเป็นการเตรียมการแก้ไขปัญหาผลผลิตข้าวให้ทันต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ในอนาคตที่อาจเกิดขึ้น จึงได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอธิบดีที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
1.สั่งการให้จังหวัดพื้นที่ปลูกข้าวเรียกประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพื่อมอบหมายให้สำนักงานเกษตรจังหวัด/อำเภอตลอดจนเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ ในพื้นที่ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าชาวนามีแนวโน้มจะทำนานอกฤดูมากน้อยจำนวนเท่าไรเพียงใด
2.ขอให้ตรวจสอบว่าชาวนาที่เข้าร่วมโครงการปลูกพืชอื่น ๆ แทนการทำนานอกฤดู และรับค่าชดเชยหรือค่าปัจจัยการผลิตไปแล้วทำตามสัญญาหรือไม่ หากไม่ปฎิบัติตามสัญญาให้ระงับการจ่ายค่าชดเชยดังกล่าวไว้ด้วย
3.เร่งรัดและเพิ่มความเข้มข้นการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการงดการทำนานอกฤดูให้กว้างขวาง ทั้งนี้ ให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเข้าพบรายงานสถานการณ์การทำนานอกฤดูให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบทุกระยะ พร้อมทั้งประสานงานกับปลัดจังหวัด เพื่อขอความร่วมมือให้นายอำเภอและกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่เกษตรในพื้นที่ หรือ ศพก.ในการระดมกำลังแก้ไขปัญหาการทำนานอกฤดูด้วย
4.มาตรการอื่น ๆ ที่คณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเห็นว่าเหมาะสมกับพื้นที่
5.ในส่วนกลางขอให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ และผู้ตรวจราชการกรมทุกกรมได้ไปตรวจราชการพร้อมทั้งติดตามสถานการณ์การทำนานอกฤดูแต่ละจังหวัดแล้วรายงานกระทรวงทุกระยะ เพื่อประเมินสถานการณ์ และเตรียมการแก้ไขปัญหาผลผลิตข้าวนอกฤดูไว้ด้วย
6. ให้คณะกรรมการพัฒนาการเกษตรฯ จังหวัดประสานพาณิชย์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัดและบริษัทประชารัฐรวมทั้งภาคเอกชนถึงความต้องการผลผลิตพืชหลังนา แล้วแจ้งข้อมูลดังกล่าวแก่เกษตรจังหวัด/อำเภอ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ชาวนาว่าเมื่อผลผลิตพืชหลังนาออกมาจะมีตลาดรับซื้อ