พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชาญเวช เสสะเวช ผบช.น. พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 แถลงข่าวกรณีจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ กทม. โดยสามารถยึดของกลางยาบ้า 370,400 เม็ด ยาไอซ์ 13 กิโลกรัม ยาอีสีฟ้า 4,690 เม็ด ยาอีสีน้ำตาล 33,090 เม็ด และเฮโรอีน 240 กรัม
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลจับกุมคดียาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ กทม. ได้รับเบาะแสว่ามีกลุ่มผู้ต้องหาอีกกลุ่ม มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ เขตบางขุนเทียนและใกล้เคียง จนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว แบ่งหน้าที่การทำงานอย่างเป็นระบบ โดยเช่าคอนโดอาคาร A ถนนสาธร-ตากสิน แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ไว้เป็นที่เก็บยาเสพติด และใช้รถยนต์ฮอนด้าบริโอ้ สีขาว ทะเบียน 2 กฌ-1714 กทม. ในการขนยาเสพติด กระทั่งวานนี้ ( 29 ม.ค. ) กลุ่มผู้ต้องหาได้นำรถยนต์คันดังกล่าว มาจอดบริเวณหน้าคอนโด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวขอตรวจค้นเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พร้อมยึดของกลาง จากนั้นเข้าตรวจค้นห้องพักหมายเลข 342 ชั้น 18 อาคารเอ Aspire Condo ถ.สาธร-ตากสิน โดยสามารถยึดของกลางได้อีกจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จากนี้จะนำตัวส่ง บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลจับกุมคดียาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ กทม. ได้รับเบาะแสว่ามีกลุ่มผู้ต้องหาอีกกลุ่ม มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ เขตบางขุนเทียนและใกล้เคียง จนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว แบ่งหน้าที่การทำงานอย่างเป็นระบบ โดยเช่าคอนโดอาคาร A ถนนสาธร-ตากสิน แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ไว้เป็นที่เก็บยาเสพติด และใช้รถยนต์ฮอนด้าบริโอ้ สีขาว ทะเบียน 2 กฌ-1714 กทม. ในการขนยาเสพติด กระทั่งวานนี้ ( 29 ม.ค. ) กลุ่มผู้ต้องหาได้นำรถยนต์คันดังกล่าว มาจอดบริเวณหน้าคอนโด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวขอตรวจค้นเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พร้อมยึดของกลาง จากนั้นเข้าตรวจค้นห้องพักหมายเลข 342 ชั้น 18 อาคารเอ Aspire Condo ถ.สาธร-ตากสิน โดยสามารถยึดของกลางได้อีกจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จากนี้จะนำตัวส่ง บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป