นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า นโยบายแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง เสริมประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น ถือเป็นนโยบายที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครวางแนวทางเร่งดำเนินการในปีนี้ โดยจะมีการพัฒนาระบบท่อระบายน้ำ ขยายขนาดท่อระบายน้ำในพื้นที่ต่างๆ ให้มีขนาดใหญ่เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองมากยิ่งขึ้น โเยเฉพาะในพื้นที่ซอยย่อยต่างๆ ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ทำการขยายขนาดท่อระบายน้ำ ปรับกายภาพพื้นที่ใกล้เสร็จสิ้น เพื่อรองรับฤดูฝนในปีนี้
นอกจากนี้ ยังเร่งขุดลอกคูคลอง ท่อระบายน้ำต่างๆ เพื่อเปิดทางน้ำไหล ให้เป็นจุดรับน้ำที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
สำหรับแนวทางการพัฒนาระบบระบายน้ำนั้น กรุงเทพมหานครได้ศึกษาแนวทางใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาตามความเหมาะสมของพื้นที่ ซึ่งในปี 2561 จะดำเนินโครงการ Water Bank หรือธนาคารน้ำใต้ดิน เพื่อเป็นจุดพักน้ำในช่วงฝนตก ก่อนจะระบายลงสูท่อระบายน้ำอื่นๆ ต่อไป
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า ธนาคารน้ำใต้ดิน จะเป็นรูปแบบเดียวกับแก้มลิง ที่ใช้กักเก็บน้ำในจุดต่างๆ การสร้างธนาคารน้ำใต้ดินจะดำเนินการในพื้นที่ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมขังเป็นประจำ ซึ่งจะขุดเจาะใส่ท่อกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ลงใต้ดิน แนวทางดังกล่าวจะช่วยให้พื้นที่บนดินนำมาพัฒนาใช้ประโยชน์ด้านอื่น เช่น การสร้างสวนหย่อมการสร้างอาคารอื่นๆ ได้ ซึ่งถือเป็นการใช้ประโยชน์ที่ดินให้คุ้มค่ามากที่สุด โดยนโยบายปี 2561 กรุงเทพมหานครจะนำร่องในพื้นที่จุดอ่อนน้ำท่วม 5 จุดสำคัญ ซึ่งเกิดปัญหาน้ำท่วมขังรอการระบายสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนบ่อยครั้ง ได้แก่ บริเวณ สน. บางเขนถนนพหลโยธิน บริเวณสวนสาธารณะใต้สะพานข้ามแยกถนนรัชดาภิเษกตัดถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณสะพานข้ามแยกถนนกรุงเทพกรีฑาตัดถนนศรีนครินทร์ บริเวณปากซอยสุทธิพร 2 ถนนอโศกดินแดง และบริเวณหมู่บ้านเศรษฐกิจ ถนนเพชรเกษม โดยเมื่อสร้างธนาคารน้ำใต้ดิน จะช่วยกักเก็บน้ำได้รวม 27,030 ลูกบาศก์เมตร โดยกรุงเทพมหานครจะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นในปลายปีนี้ อย่างแน่นอน