พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ได้รับทราบว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ได้ออกรายงานทบทวนรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงทั่วโลก ประจำปี 2560 ทั้งตลาดที่มีการขายสินค้าละเมิด และตลาดออนไลน์ โดยในปีนี้ไม่มีชื่อย่านการค้าหรือศูนย์การค้าในประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการละเมิดสูงแม้แต่แห่งเดียว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
นอกจากนี้ USTR ยังได้ชื่นชมถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานของรัฐบาล ที่ได้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจัง จนสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จในหลายพื้นที่ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2560 เป็นต้นมา
ก่อนหน้านี้ USTR ได้ประกาศปรับสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษ (PWL) เป็นบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (WL) ซึ่งเมื่อรวมกับรายงานในครั้งนี้ จึงถือเป็นเครื่องยืนยันว่า ไทยมีพัฒนาการด้านการคุ้มครองและบังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาดีขึ้น และจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังต่อไป ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และบรรยากาศที่ดีในด้านการค้าการลงทุน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีขอขอบคุณทุกฝ่ายทั้งเจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ และประชาชน ที่ร่วมมือกันทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่บางแห่งยังคงมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย ลักลอบขายและซื้อสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา จึงขอความร่วมมือคนไทยไม่ซื้อ ไม่ขาย และไม่ใช้ของปลอม รวมทั้งมีจิตสำนึกและตระหนักถึงความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญาอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2550 - 2559 มีย่านการค้าหรือศูนย์การค้าที่เคยถูกระบุว่าเป็นตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงจำนวน 13 แห่ง เช่น ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า คลองถม สะพานเหล็ก บ้านหม้อ เอ็มบีเค หาดกะรน หาดป่าตอง ตลาดโรงเกลือ ฯลฯ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการกวดขันปราบปรามอย่างจริงจัง มีการจับกุมกว่า 700 คดี ยึดของกลางราว 150,000 ชิ้น ในช่วงเดือนมกราคม - กันยายน 2560 จนกระทั่งการประกาศครั้งที่แล้วเหลือเพียงแห่งเดียว คือ ศูนย์การค้าเอ็มบีเค และไม่ปรากฏชื่อแม้แต่แห่งเดียวในการประกาศครั้งนี้
นอกจากนี้ USTR ยังได้ชื่นชมถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานของรัฐบาล ที่ได้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจัง จนสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จในหลายพื้นที่ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2560 เป็นต้นมา
ก่อนหน้านี้ USTR ได้ประกาศปรับสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษ (PWL) เป็นบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (WL) ซึ่งเมื่อรวมกับรายงานในครั้งนี้ จึงถือเป็นเครื่องยืนยันว่า ไทยมีพัฒนาการด้านการคุ้มครองและบังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาดีขึ้น และจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังต่อไป ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และบรรยากาศที่ดีในด้านการค้าการลงทุน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีขอขอบคุณทุกฝ่ายทั้งเจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ และประชาชน ที่ร่วมมือกันทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่บางแห่งยังคงมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย ลักลอบขายและซื้อสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา จึงขอความร่วมมือคนไทยไม่ซื้อ ไม่ขาย และไม่ใช้ของปลอม รวมทั้งมีจิตสำนึกและตระหนักถึงความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญาอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2550 - 2559 มีย่านการค้าหรือศูนย์การค้าที่เคยถูกระบุว่าเป็นตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงจำนวน 13 แห่ง เช่น ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า คลองถม สะพานเหล็ก บ้านหม้อ เอ็มบีเค หาดกะรน หาดป่าตอง ตลาดโรงเกลือ ฯลฯ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการกวดขันปราบปรามอย่างจริงจัง มีการจับกุมกว่า 700 คดี ยึดของกลางราว 150,000 ชิ้น ในช่วงเดือนมกราคม - กันยายน 2560 จนกระทั่งการประกาศครั้งที่แล้วเหลือเพียงแห่งเดียว คือ ศูนย์การค้าเอ็มบีเค และไม่ปรากฏชื่อแม้แต่แห่งเดียวในการประกาศครั้งนี้