การประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (16 ม.ค.) เริ่มเวลา 10.00 น. มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยมีวาระสำคัญ คือ กระทรวงการคลัง โดยสำนักงบประมาณ เสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณแบบขาดดุล 450,000 ล้านบาท และประมาณการเก็บรายได้ 2.5 ล้านล้านบาท โดยกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 2562 เน้นไปที่เรื่องการปฏิรูปต่อเนื่อง เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ และนำพาประเทศไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล รวมไปถึงปฏิรูปเศรษฐกิจฐานราก โดยจะจัดให้มีงบพัฒนารายภาคทั้ง 6 ภาค
ขณะที่กระทรวงการคลัง เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ฉบับที่ พ.ศ. และร่างกฎกระทรวงออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร เกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการมีบุตร รวมถึงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กเพื่อเป็นสวัสดิการของลูกจ้าง สำหรับสถานประกอบการของบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
ด้านกระทรวงพาณิชย์ เสนอรายการสินค้าเพิ่มเติมเข้าสู่บัญชีสินค้าและบริการควบคุมปี 2561 เช่น ยางพารา แชมพูสระผม สบู่เหลว เป็นต้น เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาดูแล จากในปี 2560 ที่มีสินค้าและบริการควบคุม 47 รายการ โดยสาเหตุที่ต้องเพิ่มรายการสินค้าควบคุม เพราะเป็นสินค้าที่มีผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง และมีการร้องเรียนเกี่ยวกับราคาสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่กระทรวงการคลัง เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ฉบับที่ พ.ศ. และร่างกฎกระทรวงออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร เกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการมีบุตร รวมถึงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กเพื่อเป็นสวัสดิการของลูกจ้าง สำหรับสถานประกอบการของบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
ด้านกระทรวงพาณิชย์ เสนอรายการสินค้าเพิ่มเติมเข้าสู่บัญชีสินค้าและบริการควบคุมปี 2561 เช่น ยางพารา แชมพูสระผม สบู่เหลว เป็นต้น เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาดูแล จากในปี 2560 ที่มีสินค้าและบริการควบคุม 47 รายการ โดยสาเหตุที่ต้องเพิ่มรายการสินค้าควบคุม เพราะเป็นสินค้าที่มีผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง และมีการร้องเรียนเกี่ยวกับราคาสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง