นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมแช่เยือกแข็งไทย กล่าวถึงกรณีที่องค์การอาหารและยาสหรัฐ (USFDA) ประกาศกักกันสินค้าจากประเทศต่างๆ จำนวน 14 รายการ โดยในจำนวนนี้มีคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับไทยจำนวน 11 รายการ หลังจากตรวจสอบพบว่าสินค้าที่ส่งเข้ามายังสหรัฐฯ เป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด โดยส่วนใหญ่เป็นการส่งออกของกลุ่มเอสเอ็มอี
สำหรับสินค้าทั้ง 11 รายกายที่มีการตรวจสอบความผิดปกติ ได้แก่ กุ้งแห้ง ปลาเค็มแห้งแช่เยือกแข็ง ปลาทูนึ่งแช่แข็ง และอาหารทะเล เป็นต้น ดังนั้น เพื่อให้การส่งออกเป็นไปตามมาตรฐานจะเร่งทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการรายเล็กเกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพสินค้า รวมถึงจะต้องบังคับใช้กฎหมาย และ พ.ร.บ.ประมงฉบับใหม่อย่างจริงจังกับผู้ส่งออก
นายกสมาคมแช่เยือกแข็งไทย กล่าวด้วยว่า ในปีที่ 2560 สามารถส่งออกกุ้งได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10-12 เนื่องจากมีการแก้ปัญหาโรคกุ้งอย่างจิงจัง จึงทำให้ผู้ซื้อเกิดความเชื่อมั่นในการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทย และคาดการณ์ปี 2561 จะสามารถส่งออกกุ้งได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 3 แสนตัน เป็น 3.5 แสนต้น หรือขยายตัวประมาณร้อยละ 10 เนื่องจากมั่นใจว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะสามารถแก้ไขปัญหากุ้งเลี้ยงซึ่งจะทำให้มีวัตถุดิบในการส่งกุ้งเพิ่มขึ้น
ส่วนการส่งออกวัตถุดิบประเภทปลาหมึกและปลา ที่ยังมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการเรือประมงที่ยังไม่มีความชัดเจน เบื้องต้นผู้ประกอบการได้นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเพื่อนำมาแปรรูปเพื่อการส่งออกเป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ยังเป็นห่วงเรื่องค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่าซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะการส่งออกอาหารแปรรูป และสินค้าเกษตรไทย รวมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพหากมีผลบังคับใช้
สำหรับสินค้าทั้ง 11 รายกายที่มีการตรวจสอบความผิดปกติ ได้แก่ กุ้งแห้ง ปลาเค็มแห้งแช่เยือกแข็ง ปลาทูนึ่งแช่แข็ง และอาหารทะเล เป็นต้น ดังนั้น เพื่อให้การส่งออกเป็นไปตามมาตรฐานจะเร่งทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการรายเล็กเกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพสินค้า รวมถึงจะต้องบังคับใช้กฎหมาย และ พ.ร.บ.ประมงฉบับใหม่อย่างจริงจังกับผู้ส่งออก
นายกสมาคมแช่เยือกแข็งไทย กล่าวด้วยว่า ในปีที่ 2560 สามารถส่งออกกุ้งได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10-12 เนื่องจากมีการแก้ปัญหาโรคกุ้งอย่างจิงจัง จึงทำให้ผู้ซื้อเกิดความเชื่อมั่นในการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทย และคาดการณ์ปี 2561 จะสามารถส่งออกกุ้งได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 3 แสนตัน เป็น 3.5 แสนต้น หรือขยายตัวประมาณร้อยละ 10 เนื่องจากมั่นใจว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะสามารถแก้ไขปัญหากุ้งเลี้ยงซึ่งจะทำให้มีวัตถุดิบในการส่งกุ้งเพิ่มขึ้น
ส่วนการส่งออกวัตถุดิบประเภทปลาหมึกและปลา ที่ยังมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการเรือประมงที่ยังไม่มีความชัดเจน เบื้องต้นผู้ประกอบการได้นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเพื่อนำมาแปรรูปเพื่อการส่งออกเป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ยังเป็นห่วงเรื่องค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่าซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะการส่งออกอาหารแปรรูป และสินค้าเกษตรไทย รวมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพหากมีผลบังคับใช้