นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ ภายหลังจากตรวจสอบข้อมมูลจากกรมปศุสัตว์ พบว่าสถานการณ์ไก่ไข่และไข่ไก่ ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2560 มีจำนวนแม่ไก่ไข่ยืนกรง 55.64 ล้านตัวต่อปี ให้ผลผลิตไข่ไก่โดยเฉลี่ย 45.10 ล้านฟองต่อวัน รวมมีผลผลิตไก่ไข่ทั้งปี 16,470 ล้านฟอง ซึ่งมีปริมาณไข่ไก่มากกว่าความต้องการผู้บริโภค โดยมติที่ประชุมคณะกรรมการคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) ได้ข้อสรุปมาตการ ประกอบด้วย การลดจำนวนการนำเข้าปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่ (G.P.) เหลือ 5,500 ตัว จากเดิม 6,000 ตัว และลดการนำเข้าจำนวนพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ (P.S.) เหลือ 550,000 ตัว จากเดิม 608,065 ตัว ทั้งนี้หากมีความจำเป็นต้องนำเข้าเพิ่มเติมก็สามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการฯ พิจารณาเร่งด่วนได้
นอกจากนี้ ให้ดำเนินกิจกรรมปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรง อายุไม่เกิน 72 สัปดาห์ จำนวน 2 ล้านตัว โดยแบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 (ภายในเดือนมกราคม 2561) ปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงจำนวน 5 แสนตัว โดยสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่จะร่วมกับผู้เลี้ยงไก่ไข่ทั่วประเทศดำเนินการเอง และให้กรมปศุสัตว์ประเมินสถานการณ์ว่ามีความจำเป็นต้องเร่งรัดปลดแม่ไก่ไข่อีกหรือไม่ หากมีความจำเป็นให้ดำเนินการต่อ ระยะที่ 2 – 4 โดยขอใช้เงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) กระทรวงพาณิชย์ ต่อไป
นายลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ไขปัญหาไข่ไก่ต้องดำเนินการตามทุกประเด็นที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ไก่ไข่ ประกอบด้วย การส่งเสริมการแปรรูป การลดต้นทุนการผลิต การยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงและการผลิต การวิจัยและพัฒนา และการบริหารจัดการความสมดุลการผลิตและบริโภค รวมทั้งการแสวงหาตลาดส่งออกเพื่อระบายไข่ไก่ออกจากระบบอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์เร่งรัดขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไก่ไข่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้เกิดผลโดยเร็ว
นอกจากนี้ ให้ดำเนินกิจกรรมปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรง อายุไม่เกิน 72 สัปดาห์ จำนวน 2 ล้านตัว โดยแบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 (ภายในเดือนมกราคม 2561) ปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงจำนวน 5 แสนตัว โดยสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่จะร่วมกับผู้เลี้ยงไก่ไข่ทั่วประเทศดำเนินการเอง และให้กรมปศุสัตว์ประเมินสถานการณ์ว่ามีความจำเป็นต้องเร่งรัดปลดแม่ไก่ไข่อีกหรือไม่ หากมีความจำเป็นให้ดำเนินการต่อ ระยะที่ 2 – 4 โดยขอใช้เงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) กระทรวงพาณิชย์ ต่อไป
นายลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ไขปัญหาไข่ไก่ต้องดำเนินการตามทุกประเด็นที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ไก่ไข่ ประกอบด้วย การส่งเสริมการแปรรูป การลดต้นทุนการผลิต การยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงและการผลิต การวิจัยและพัฒนา และการบริหารจัดการความสมดุลการผลิตและบริโภค รวมทั้งการแสวงหาตลาดส่งออกเพื่อระบายไข่ไก่ออกจากระบบอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์เร่งรัดขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไก่ไข่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้เกิดผลโดยเร็ว