พล.อ.วิทวัส รชตนันท์ รักษาการประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าในสนามบินของบริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ซึ่งผู้ตรวจได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบและได้มีหนังสือแจ้งขอให้ทางบริษัทแก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องจากถูกร้องเรียนว่ามีการขายอาหารและเครื่องดื่มในราคาสูง แต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือจาก ทอท.เท่าที่ควร และรู้สึกว่า ทอท.ไม่ได้ยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเท่าที่ควร รวมไปถึงการผู้ขาดธุรกิจสินค้าปลอดอากร โดยพยายามที่จะปกป้องผลประโยชน์ของเอกชนมากเกินสมควร ทั้งที่หลังจากประชาชนซื้อสินค้าแล้วจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายศุลกากร รวมทั้ง ทอท.ไม่มีอำนาจที่จะผูกขาดธุรกิจสินค้าปลอดอากร แต่ที่ผ่านมาเมื่อมีหนังสือให้ไปแก้ไขก็พยายามบ่ายเบี่ยง ซึ่งผู้ตรวจฯ เห็นว่า ทอท.ควรเปิดให้ธุรกิจสินค้าปลอดอากรเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันและตั้งอยู่ภายนอกท่าอากาศยาน เมื่อนักท่องเที่ยวซื้อสินค้าแล้ว และไปรับสินค้าในท่าอากาศยานได้ ทอท.จึงควรเปิดพื้นที่ในท่าอากาศยานให้มีจุดรับสินค้า ซึ่งในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการไปขอหรือเบียดบังพื้นที่ของเจ้าของสัปทานเดิม โดยเรื่องนี้ได้หารือกับศุลการกรแล้วก็พร้อมที่จะส่งเจ้าหน้าที่มาทำหน้าที่ตรวจและส่งสินค้าให้นักท่องเที่ยว เพียงแต่ ทอท.ไม่เปิดพื้นที่ให้ ทั้งนี้หากทำสำเร็จจะมีรายได้และเป็นการส่งเสริมให้มีการแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเปิดพื้นที่และการเปิดให้มีการแข่งขันธุรกิจสินค้าปลอดอาการจะไม่กระทบต่อธุรกิจสินค้าปลอดอากรรายเดิมที่เป็นเจ้าใหญ่ เพราะบริษัทเกิดใหม่คงจะสู้รายใหญ่เดิมไม่ได้อยู่แล้ว แต่จะทำให้รัฐมีรายได้ และมีผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มขึ้น เราสามารถขายสินค้าได้ทั่วประเทศ นักท่องเที่ยวมีความสะดวกสบายและมีทางเลือกมากขึ้น
พล.อ.วิทวัส กล่าวอีกว่า ในขณะนี้มีรัฐธรรมนูญใหม่และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งได้มีการกำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจฯ ให้มีความชัดเจนมากขึ้นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้สามารถเอาผิดหน่วยงานของรัฐที่ทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชน โดยสามารถสอบวินัยและส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ ดังนั้นในกรณีของ ทอท. ทางผู้ตรวจฯ จะทำหนังสือเพื่อให้ ทอท.เร่งดำเนินการแก้ปัญหา แต่หากไม่มีการดำเนินการใดๆ เพื่อให้คำวินิจฉัยมีสภาพบังคับ ตามกฎหมายฉบับใหม่กำหนด ผู้ตรวจฯ ก็สามารถส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ ขณะเดียวกัน จะทำรายงานเสนอไปยัง สนช. และเปิดเผยให้ประชาชนทราบ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเปิดพื้นที่และการเปิดให้มีการแข่งขันธุรกิจสินค้าปลอดอาการจะไม่กระทบต่อธุรกิจสินค้าปลอดอากรรายเดิมที่เป็นเจ้าใหญ่ เพราะบริษัทเกิดใหม่คงจะสู้รายใหญ่เดิมไม่ได้อยู่แล้ว แต่จะทำให้รัฐมีรายได้ และมีผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มขึ้น เราสามารถขายสินค้าได้ทั่วประเทศ นักท่องเที่ยวมีความสะดวกสบายและมีทางเลือกมากขึ้น
พล.อ.วิทวัส กล่าวอีกว่า ในขณะนี้มีรัฐธรรมนูญใหม่และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งได้มีการกำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจฯ ให้มีความชัดเจนมากขึ้นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้สามารถเอาผิดหน่วยงานของรัฐที่ทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชน โดยสามารถสอบวินัยและส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ ดังนั้นในกรณีของ ทอท. ทางผู้ตรวจฯ จะทำหนังสือเพื่อให้ ทอท.เร่งดำเนินการแก้ปัญหา แต่หากไม่มีการดำเนินการใดๆ เพื่อให้คำวินิจฉัยมีสภาพบังคับ ตามกฎหมายฉบับใหม่กำหนด ผู้ตรวจฯ ก็สามารถส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ ขณะเดียวกัน จะทำรายงานเสนอไปยัง สนช. และเปิดเผยให้ประชาชนทราบ