xs
xsm
sm
md
lg

ครม.รับทราบแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่งภาคเหนือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ จ.สุโขทัย ว่า ที่ประชุมฯ ได้รับทราบแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่งในภาคเหนือ ประกอบด้วย การคมนาคมขนส่งทางบก ซึ่งในภาคเหนือมีงบประมาณที่ได้ขับเคลื่อนด้านการคมนาคม ประมาณร้อยละ 24 ของงบประมาณในการสร้างถนน โดยกระทรวงคมนาคมมีผลการดำเนินงานที่ผ่านมา สรุปได้ดังนี้

1.การก่อสร้างถนนสี่ช่องจราจร ถนนหลวง หมายเลข 12 แม่สอด-มุกดาหาร โดยรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมได้รายงานความคืบหน้าว่า ถนนจากแม่สอด-มุกดาหาร แบ่งเป็น 4 ตอน ขณะนี้แล้วเสร็จ 3 ตอน คงเหลืออีก 1 ตอน คือ แม่สอด-ตาก ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วร้อยละ 5 เนื่องจากยังติดขัดในการสร้างเส้นทางที่คาบเกี่ยวบริเวณที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ ทั้งนี้ มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการต่อไป ซึ่งจะได้ประสานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมธรรมชาติในการแก้ไขปัญหาต่อไป

2.การก่อสร้างเส้นทางเลี่ยงเมืองเชียงใหม่ (เส้นทางป่าตอง - หางดง) เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรที่มีสภาพจราจรผ่านเมืองหลัก เช่น ถนนเลี่ยงเมืองสันป่าตอง-หางดง จ.เชียงใหม่ โดยนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เริ่มดำเนินภายในปี 2561

3.ระบบพัฒนาการขนส่งในเมืองหลัก คือ เชียงใหม่ พิษณุโลก ที่ต้องการให้มีระบบขนส่งสาธารณะ รถราง รถไฟ ในเขตตัวเมือง เพื่อพัฒนาการขนส่งทางบกทางถนน

ส่วนการคมนาคมทางราง มีการเสนอโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ลพบุรี – ปากน้ำโพ และปากน้ำโพ - เด่นชัย โดยในช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ จะสามารถลงนามได้ภายในวันที่ 28 ธันวาคม 2560 ส่วนเส้นทางปากน้ำโพ - เด่นชัย จะสามารถนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561

ส่วนที่สองโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ (ทางคู่) คือ สายเด่นชัย เชียงราย เชียงของ อยู่ในการพิจารณารายละเอียดของสภาพัฒน์ และจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในปี 2561

ส่วนที่สาม คือ รถไฟความเร็วสูง (ความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น) สาย กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ แบ่งออกเป็นระยะที่ 1 กรุงเทพฯ – พิษณุโลก ระยะทาง 380 กิโลเมตร คาดว่าจะสามารถนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาอนุมัติโครงการของคณะรัฐมนตรีได้ภายในต้นปี 2561

ขณะที่การคมนาคมขนส่งทางอากาศ จะมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร ของท่าอากาศยานเชียงใหม่แห่งที่ 2 ซึ่งอยู่ระหว่างกำลังพิจารณาระหว่าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ หรือ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ซึ่งขณะนี้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศอยู่ระหว่างการจัดทำแผนแม่บทในการจัดตั้งและศึกษาความเหมาะสม ขณะเดียวกัน อาคารหลังเดิมของท่าอากาศยานเชียงใหม่ จะมีการขยายปริมาณรองรับผู้โดยสารให้มากขึ้น จาก 10 ล้านคนต่อปี จะขยายให้ได้ 20 ล้านคนต่อปี และจากเดิมรองรับสายการบินจาก 24 เที่ยวต่อสัปดาห์ เป็น 34 เที่ยวต่อสัปดาห์

ส่วนการคมนาคมขนส่งทางน้ำ จะมีการพัฒนาปรับปรุงทางเดิน 98 ร่องน้ำ อีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น