พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า วันนี้ (25 ธ.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประชุมตรวจราชการพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด ณ จังหวัดพิษณุโลก โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ความมั่นคงจากกองทัพภาคที่ 3 และส่วนราชการในพื้นที่ จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของตำรวจภูธร ภาค 6 และสถานีตำรวจภูธรบ้านสวน จ.สุโขทัย
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับสั่งการให้ส่วนราชการ ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ประสานกับภาคเอกชนในพื้นที่ บูรณาการทำงานร่วมกันให้ใกล้ชิดมากขึ้นในการร่วมกันดูแลรักษาความสงบ ความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด ซึ่งมีข้อมูลผลการจับกุมในพื้นที่ภาคเหนือ ปี 2560 สูงกว่าปี 2559 กว่าร้อยละ 40 และยังคงมีแหล่งผลิตนอกประเทศ จำนวน 12 แห่ง
นอกจากนี้ ยังปรากฏข่าวสารมียาเสพติดมาพักคอยตามแนวชายแดน ยาบ้ากว่า 62 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 400 กิโลกรัม ซึ่งแนวโน้มการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ปี 2561 มีมาก เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา จึงจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นมาตรการด้านการข่าว การสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายและเพิ่มความร่วมมือกับภาคประชาชนมากขึ้น โดยให้พยายามสืบโยงเครือข่ายถึงนายทุนรายใหญ่ให้ได้
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สำหรับการดูแลประชาชน ให้เน้นทำงานเชิงรุกเพื่อเข้าไปแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในระดับพื้นที่ให้มากขึ้น ทั้งปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ปัญหาการขาดแคลนแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง โดยต้องทำด้วยความโปร่งใส ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าและต้องตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ สำหรับการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ผ่านมา ให้คงความต่อเนื่องในการช่วยเหลือขั้นฟื้นฟู จนกว่าประชาชนจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุข
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เฝ้าระวังและร่วมกันดูแลการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยถือเป็นวาระสำคัญเร่งด่วนที่ต้องร่วมกันทำอย่างต่อเนื่องตลอดปี ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถิ่น โดยต้องนำข้อมูลทางสถิติมาวิเคราะห์จุดเสี่ยงและคุมเข้มบังคับใช้กฎหมาย ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมกับประชาชน เพื่อลดการสูญเสียของประชาชนจากอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ได้มากที่สุด พร้อมกันนี้ ชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ เพื่อประชาชนมาโดยตลอด
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับสั่งการให้ส่วนราชการ ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ประสานกับภาคเอกชนในพื้นที่ บูรณาการทำงานร่วมกันให้ใกล้ชิดมากขึ้นในการร่วมกันดูแลรักษาความสงบ ความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด ซึ่งมีข้อมูลผลการจับกุมในพื้นที่ภาคเหนือ ปี 2560 สูงกว่าปี 2559 กว่าร้อยละ 40 และยังคงมีแหล่งผลิตนอกประเทศ จำนวน 12 แห่ง
นอกจากนี้ ยังปรากฏข่าวสารมียาเสพติดมาพักคอยตามแนวชายแดน ยาบ้ากว่า 62 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 400 กิโลกรัม ซึ่งแนวโน้มการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ปี 2561 มีมาก เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา จึงจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นมาตรการด้านการข่าว การสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายและเพิ่มความร่วมมือกับภาคประชาชนมากขึ้น โดยให้พยายามสืบโยงเครือข่ายถึงนายทุนรายใหญ่ให้ได้
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สำหรับการดูแลประชาชน ให้เน้นทำงานเชิงรุกเพื่อเข้าไปแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในระดับพื้นที่ให้มากขึ้น ทั้งปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ปัญหาการขาดแคลนแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง โดยต้องทำด้วยความโปร่งใส ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าและต้องตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ สำหรับการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ผ่านมา ให้คงความต่อเนื่องในการช่วยเหลือขั้นฟื้นฟู จนกว่าประชาชนจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุข
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เฝ้าระวังและร่วมกันดูแลการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยถือเป็นวาระสำคัญเร่งด่วนที่ต้องร่วมกันทำอย่างต่อเนื่องตลอดปี ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถิ่น โดยต้องนำข้อมูลทางสถิติมาวิเคราะห์จุดเสี่ยงและคุมเข้มบังคับใช้กฎหมาย ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมกับประชาชน เพื่อลดการสูญเสียของประชาชนจากอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ได้มากที่สุด พร้อมกันนี้ ชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ เพื่อประชาชนมาโดยตลอด