สำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินเขตซานตา บาร์บารา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ทวีตข้อความสั่งอพยพผู้คนหลายพื้นที่ในเขตซานตา บาร์บารา เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ประกอบกับลมกระโชกแรง และความชื้นต่ำ เป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้เกิดไฟป่าครั้งใหม่
ขณะที่เจ้าหน้าที่กว่า 8,000 นาย ยังเดินหน้าควบคุมไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียได้เพียง 1 ใน 3 ของพื้นที่ และกำลังเผชิญอุปสรรคจากลมกระโชกแรงที่เปลี่ยนทิศทาง เพลิงเผาผลาญพื้นที่แล้ว 259,000 เอเคอร์ เผาสิ่งปลูกสร้างกว่า 1,000 หลัง เสียหายกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประชาชนกว่า 94,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน นับตั้งแต่เกิดไฟป่าเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม
ทั้งนี้ นับเป็นไฟป่าครั้งใหญ่อันดับ 3 ของรัฐแคลิฟอร์เนีย นับตั้งแต่ปี 2475 คาดว่าจะมีลมกระโชกแรงความเร็ว 48-64 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย
ขณะที่นายเจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เห็นว่า ไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนียปีนี้เป็นเสมือนสัญญาณเตือนไปยังพื้นที่ต่างๆ ของโลกให้ระวังภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลก โดยไฟป่าทำนองนี้อาจเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ซึ่งถือเป็นตัวบ่งชี้สิ่งเลวร้ายที่จะตามมา และหวังว่า จะปลุกให้ผู้คนตื่นตัว อย่าได้ชะล่าใจกับปรากฏการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเกินไป
ขณะที่เจ้าหน้าที่กว่า 8,000 นาย ยังเดินหน้าควบคุมไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียได้เพียง 1 ใน 3 ของพื้นที่ และกำลังเผชิญอุปสรรคจากลมกระโชกแรงที่เปลี่ยนทิศทาง เพลิงเผาผลาญพื้นที่แล้ว 259,000 เอเคอร์ เผาสิ่งปลูกสร้างกว่า 1,000 หลัง เสียหายกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประชาชนกว่า 94,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน นับตั้งแต่เกิดไฟป่าเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม
ทั้งนี้ นับเป็นไฟป่าครั้งใหญ่อันดับ 3 ของรัฐแคลิฟอร์เนีย นับตั้งแต่ปี 2475 คาดว่าจะมีลมกระโชกแรงความเร็ว 48-64 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย
ขณะที่นายเจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เห็นว่า ไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนียปีนี้เป็นเสมือนสัญญาณเตือนไปยังพื้นที่ต่างๆ ของโลกให้ระวังภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลก โดยไฟป่าทำนองนี้อาจเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ซึ่งถือเป็นตัวบ่งชี้สิ่งเลวร้ายที่จะตามมา และหวังว่า จะปลุกให้ผู้คนตื่นตัว อย่าได้ชะล่าใจกับปรากฏการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเกินไป